​4 เม.ย. "จันทรุปราคา" เต็มดวงครั้งแรก-ครั้งเดียวในไทย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชวนคนไทยชม " จันทรุปราคาเต็มดวง" หัวค่ำ 4 เมษายน นี้ ครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าในไทย


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. แถลงข่าวการเกิดปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง 4 เมษายน 2558 และการเตรียมการจัดกิจกรรมร่วมสังเกตปรากฎการณ์ โดย รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการ สดร. เปิดเผยว่า ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 4 เม.ย. 58 จะเกิดปรากฏการณ์ "จันทรุปราคาเต็มดวง" ขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้ ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในประเทศไทย โดยเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำตั้งแต่ดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก เวลาประมาณ 18.57-19.02 น. นาน 5 นาที ผู้สนใจชมได้โดยให้หันหน้าไปทางทางทิศตะวันออก และควรอยู่ในที่โล่งหรือที่สูงจะสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเวลาที่ดวงจันทร์ยังอยู่ใกล้ขอบฟ้ามาก


ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกของปี 2558 โดยครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 57 และจะเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงเพียงครั้งเดียวที่จะเห็นได้ในประเทศไทย ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ก.ย. 58 ซึ่งตรงกับช่วงเวลากลางวันทำให้ประเทศไทยไม่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้


ด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า ความพิเศษของจันทรุปราคาครั้งนี้คือเป็นคราส หรือจันทรุปราคาเต็มดวงที่สั้นที่สุดในศตวรรษ นาน 5 นาที เพราะเกิดบริเวณชิดขอบเงามัว ทำให้ดวงจันทร์ไม่มืดสนิท สามารถมองเห็นเป็นสีแดงอิฐที่สวยงามมาก ปรากฏการณ์นี้สามารถสังเกตได้เกือบทุกพื้นที่ของเอเชีย รวมถึงทางด้านตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย (ตรงกับเวลาเช้ามืดของวันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น) ด้านตะวันตกของอเมริกาใต้ และด้านตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก


สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงจะเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำและตรงกับคืนเดือนเพ็ญพอดี โดยดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลาประมาณ 16.01 น. และจากนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 17.15 น. แต่ในวันดังกล่าวในประเทศไทยดวงจันทร์จะโผล่พ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.25 น. ทำให้ไม่สามารถเห็นช่วงแรกของการเกิดจันทรุปราคาได้ หลังจากนั้นดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ "จันทรุปราคาเต็มดวง" ตั้งแต่เวลา 18.57 - 19.02 น. คิดเป็นระยะเวลาของจันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ ประมาณ 5 นาที ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่สูงจากขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 7 องศา และช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวงจนสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางด้านทิศตะวันออกในทุกภูมิภาคของประเทศ


หลังจากนั้นดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกเข้าสู่การเป็นช่วงจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้งและเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งช่วงท้ายสุดดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 21.58 น. ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของปรากฏการณ์จันทรุปราคาแบบเต็มดวงครั้งนี้โดยสมบูรณ์


ด้าน สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายและหอดูดาวสิรินธร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมสังเกตการณ์และตั้งจุดถ่ายทอดสดจันทรุปราคาเต็มดวง 4 จุด ได้แก่ ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา และฉะเชิงเทรา ผ่านเว็บไซต์ www.narit.or.th ให้คนไทยชมกันอย่างเต็มอิ่ม ตั้งแต่เวลา 17:00 - 22:00 น. โดยตั้งกล้องโทรทรรศน์สังเกตการณ์พร้อมถ่ายทอดสดผ่านจอภาพขนาดใหญ่ภายในบริเวณงานให้ชมกันอย่างเต็มตา รวมถึงกิจกรรมทางดาราศาสตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ แนะนำการดูดาวเบื้องต้น เรียนรู้ท้องฟ้าและกลุ่มดาวต่างๆ


สถานที่จัดกิจกรรมทั้ง 4 จุด จุดแรกคือ ดาดฟ้าชั้น 3 บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 081-8854353 จุดที่ 2 คือ จุดชมวิวดอยสุเทพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 082-3868155 จุดที่ 3 คือ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 044-216254 และจุดที่ 4 คือ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 038-589395


สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปทีละน้อยจนดวงจันทร์เข้าไปอยู่เงามืดทั้งดวง และเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก ช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกบางส่วนจะเรียกว่า "จันทรุปราคาบางส่วน" และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง เรียกว่า "จันทรุปราคาเต็มดวง" จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ เนื่องจากได้รับแสงสีแดงซึ่งเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด หักเหผ่านบรรยากาศโลกไปกระทบกับดวงจันทร์

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ