วันนี้ (8 ส.ค.61) เมื่อเวลา 18.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลจากกรมชลประทาน ยืนยันว่าน้ำจะยังไม่ท่วมตัวเมืองเพชรบุรีในวันหรือสองวันนี้ แม้ว่าปริมาณน้ำจะไหลต่อเนื่องมายังเขตเมือง แต่ในวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันที่ถูกคาดการณ์ว่าเขตเมืองน่าจะได้ระบผลกระทบจากน้ำ และน้ำจะท่วมต่อเนื่องนาน1สัปดาห์
ส่วนระดับน้ำในตัวเมืองเพชรบุรีวันนี้ ที่สะพานอุรุพงษ์เพิ่มสูงขึ้นจากเช้าเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ล้นตลิ่ง หมายความว่าแม่น้ำเพชรบุรีในเขตเมืองยังสามารถรับน้ำได้อีก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ดีมากขึ้น อย่างเช่น บันไดปูนที่เห็นนี้ ทำหน้าที่เป็นคันกั้นน้ำ สร้างขึ้นหลังเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ก้วยลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ทำให้กั้นปูนแบบนี้ในหลายจุดมีความยาวไม่มากนัก แม้สถานการณ์ล่าสุดจะดูเหมือนไม่น่ากังวล แต่นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ให้ข้อมูลว่า น้ำจะเข้าท่วมตัวเมืองเพชรบุรีในวันที่ 12 สิงหาคม โดยกว่าท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร ต่อเนื่อง7-10วัน
ขณะที่ข้อมูลเมื่อช่วง 15.30น.ที่ผ่านมา น้ำล้นสปิลเวย์ที่เขื่อนแก่งกระจานแล้ว 57 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเช้า 4 เซนติเมตร ส่วนการปล่อยน้ำวันนี้ จากเขื่อนแก่งกระจานปล่อยน้ำมา 200 ลบ.ม./วินาที เมื่อน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชร วัดได้ 110ลบ.ม./วินาที ส่วนน้ำที่ไหลเข้าตัวเมือง วัดได้ 88.5ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณน้ำที่หายไปแต่ละช่วง เกิดขึ้นได้ 2 นัยยะ คือ น้ำยังไหลไปถึงถึงจุดวัดปริมาตรน้ำ กับถูกผันลงคลองส่งน้ำ
ส่วนการเตรียมผันน้ำลงคลอง D9 หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการชลประทานเพชรบุรี เปิดเผยว่า จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 10 สิงหาคม โดยจะผันน้ำ 35 ลบ.ม./วินาที ในช่วงก่อนที่น้ำจะไหลเข้าเขื่อนเพชร เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมือง เส้นทางการผันน้ำจาก คลองD9น้ำจะไหลลงทะเลที่หาดปึกเตียน อ.ท่ายาง แทน ทั้งนี้เมื่อเริ่มดำเนินการได้ การผันน้ำลงคลองส่งน้ำและคลองD9 จะช่วยทอนน้ำในระบบได้ 90ลบ.ม./วินาที
สำหรับคลอง D9 เป็นหนึ่งในจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่วันนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ มีข้อมูลว่าเงินงบประมาณที่อนุมัติไปเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา ถูกนำมาใช้ขุดขยายคลองD9ด้วย ขณะที่อีกสองจุดที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ คือ เขื่อนเพชร และ วัดคุ้งตำหนัก ซึ่งเป็นจุดติดตั้งเรือผลักดันน้ำ พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำงานเต็มที่ และไม่อยากให้ชาวเพชรบุรีกังวลมากนัก ขณะที่การติดตั้งเรือผลักดันน้ำจากเดิมที่ติดตั้งอยู่ 20 ตัว วันนี้ติดตั้งเพิ่มเป็น 26 ตัว ส่วนกรมชลประทาน นำเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 44 เครื่อง ประจำอยู่ตามลุ่มน้ำสายย่อยต่างๆ
