หลังจากมีการมอบสัญชาติไทยให้กับนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี่ จำนวน 4 คน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงหลักเกณฑ์และมาตรฐานการให้สัญชาติ โดยเฉพาะกรณี นักกีฬา คาราเต้สาววัย 17 ปี อาซึคิ อิวาตะ หรือ“อาจู” ที่มีพ่อ-แม่ เป็นชาวญี่ปุ่น แต่มาเกิดที่ประเทศไทยลงแข่งขันคาราเต้ในนามประเทศไทย สร้างชื่อเสียงในหลายรายการ แต่เวทีนานาชาติ “อาจู” ไม่สามารถแข่งในนามทีมชาติไทยได้ เพราะไม่มีสัญชาติไทย
วันนี้ 14 ส.ค.61 รายการ “เป็นเรื่องเป็นข่าว”ได้เชิญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาอธิบายขั้นตอนการขอสัญชาติไทย พร้อมเชิญ อาซึคิ อิวาตะ หรือ“อาจู” และ น.ส.ญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา โค้ชคาราเต้ทีมชาติไทย มาร่วมรายการ
โดย อาจู บอกว่า ตนเอง เกิดที่เมืองไทย เรียนที่เมืองไทย มีเพียงชื่อเท่านั้นที่เป็นญี่ปุ่น แต่ความรู้สึกของตนคือ คนไทย และ หากให้ตนเองไปเล่นคาราเต้ในนามทีมชาติญี่ปุ่นคนเองก็คงไม่ไป ที่ผ่านมาเมื่อได้เห็นพี่ๆได้ไปแข่งในระดับนานาชาติ ก็รู้สึกหมดกำลังใจและน้อยใจเช่นกัน ว่าทำไมตนเองถึงไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น
ด้าน โค้ชคาราเต้ทีมชาติไทย บอกว่า ที่ผ่านมา อาจู เองก็รู้สึกน้อยใจ เพราะเห็นพี่ๆได้ไปแข่งในระดับนานาชาติ และตนเห็นว่า น้องเขาก็รู้สึกหมดกำลังใจ
“ฝีมือระดับอยู่ในขั้นระดับทีมชาติไทย ถ้าตอนนี้ อาจูได้ลงแข่งในระดับนานาชาติ ตนเองสามารถการันตีได้เลยว่า อาจู สามารถคว้าเหรียญทองให้ทีมชาติไทยได้เลย” โค้ชคาราเต้ทีมชาติไทย กล่าว
โค้ชคาราเต้ทีมชาติไทย บอกว่าด้วยว่า ส่วนเรื่องการขอสละสัญชาติ ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการแล้วและ “อาจู” ก็พร้อมที่จะสละสัญชาติ แต่ทางการญี่ปุ่น ไม่ยอมให้ สละสัญชาติ เพราะถ้าน้องไม่มีสัญชาติอื่นก่อน จะไม่สามารถสละสัญชาติญี่ปุ่นได้ เพราะเขาต้องปกป้องพลเมืองของเขา พร้อมกันนี้ตนเองพร้อมที่จะรับ “อาจู”เป็นลูกบุญธรรม หากเป็นช่องทางที่จะขอสัญชาติไทยได้
ด้าน นายวีนัส สีสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงการยื่นขอสัญชาติของอาจูว่า ในกรณีนี้ติดปัญหา คือ เขาไปยื่นแปลงสัญชาติ ซึ่งต้องเข้าใจว่าการยื่น “แปลงสัญชาติ” กับ “ยื่นขอสัญชาติ” มีความแตกต่างกัน
“การขอแปลงสัญชาติ” ตามเงื่อนไขของกฎหมาย คือ 1. ต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ “อาจู” ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงไม่สามารถขอแปลงสัญชาติได้ 2. สามารถยื่นแปลงสัญชาติได้ขึ้นอยู่กับ พ่อ-แม่ ยื่นขอแปลงสัญชาติโดยจะต้องนำชื่อลูกยื่นพร้อมไปด้วย แต่ พ่อ หรือ แม่ ของอาจู จะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดด้วย คือ 1.ต้องบรรลุนิติภาวะ ตามกฎหมายไทย และกฎหมายญี่ปุ่น 2.จะต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี ต้องไม่มีประวัติเรื่องของอาชญากรรม ต้องไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และ ต้องไม่มีปัญหาเรื่องของความมั่นคง 3.จะต้องเป็นคนที่มีอาชีพเป็นหลักฐาน โดยรมว.มหาดไทย ได้วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า ถ้าเป็นคนต่างด้าวมาทำงานที่เมืองไทย จะต้องมีใบอนุญาตการทำงาน
ส่วน “การขอสัญชาติไทย” ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุไว้ว่า บุคคลที่จะขอสัญชาติไทย จะต้องไม่ถือสัญชาติอื่น ซึ่ง “อาจู” ถือสัญชาติญี่ปุ่นอยู่ ดังนั้น ถ้าอยากได้สัญชาติไทย ก็ต้องสละสัญชาติญี่ปุ่นก่อน จึงจะเข้าเงื่อนไขตามที่ครม.กำหนด
“ส่วนที่ทางการญี่ปุ่นไม่ยอมสละสัญชาติให้ เรื่องนี้ต้องยื่นเรื่องโดยให้เหตุผลความจำเป็นที่จะต้องสละสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมแสดงเจตนาว่าตนเองจะขอถือสัญชาติไทย เมื่อยื่นไปแล้วทางการญี่ปุ่นจะประทับรับเรื่องไว้ จากนั้นให้นำหลักฐานดังกล่าวมายื่นว่าตนเองได้แสดงเจตนาแล้วว่าขอสละสัญชาติญี่ปุ่น”
ส่วนกรณีการทำคุณงามความดี ก็ต้องให้หน่วยงานราชการระดับกรมมีหนังสือรับรอง เช่นเดียวกับหม่อง ทองดี ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์มีหนังสือรับรองให้ ส่วน “อาจู”ก็ให้หน่วยงานราชการที่ดูแลด้านการกีฬาทำหนังสือรับรองให้
เมื่อได้หนังสือประทับรับเรื่องสละสัญชาติญี่ปุ่น กับ หนังสือรับรองการทำคุณงามความดีแล้ว ให้นำมายื่นคำร้องในภูมิลำเนาที่ตนเองอาศัยอยู่ จากนั้น สำนักงานเขต หรือทางอำเภอ ก็จะตั้งเรื่องขึ้นมาเพื่อให้อธิบดีกรมการปกครองพิจารณา จากหลักฐานที่ยื่นทั้งหมด เมื่อเขาหลักเกณฑ์ อธิบดีกรมการปกครองก็จะมีเอกสารกลับยังหน่วยงานที่ “อาจู”ยื่นตั้งแต่แรก พร้อมส่งเอกสารอีกฉบับไปให้ “อาจู” จากนั้น อาจูจะต้องนำหนังสือที่อธิบดีกรมการปกครองออกให้ มายื่นขอสัญชาติ
ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการนั้นขึ้นอยู่กับ เอกสารทั้ง 2ชิ้นว่าจะดำเนินการช้า หรือ เร็ว ถ้าเอกสารได้เร็วมีหนังสือจากอธิบดีกรมการปกครองแล้ว จะทางอำเภอจะต้องดำเนินการไม่เกิน 90 วัน
ส่วนจะมีคนรับ “อาจู” เป็นบุญธรรม เพื่อให้ได้สัญชาติไทยนั้น นั้น 1. ต้องจดทะเบียนเป็นลูกบุญธรรม 2. จะต้องอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมในระยะเวลา 5ปีขึ้นไปถึงจะขอสัญชาติได้ และ คนที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรมจะต้องอายุห่างจากบุตรบุญธรรม 15ปี
ดูคลิปฉบับเต็มได้ที่นี่>>> “โค้ช” พร้อมรับ “น้องอาจู” เป็น “บุตรบุญธรรม” เพื่อได้สัญชาติไทยลงแข่งคาราเต้ทีมชาติสร้างชื่อให้ประเทศ