กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นพื้นที่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำคณะรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก จ.ระนอง และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ขณะที่การพบปะประชาชนวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงย้ำว่าการลงพื้นที่ทุกครั้งไม่ใช่การหาเสียง

วันนี้ (20 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่พบปะประชาชนกว่า 1,000 คน ที่หอประชุมพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ในศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้ไม่ปรากฏนักการเมืองมารอต้อนรับ แต่นายกฯ ก็ยังคงย้ำกับประชาชนว่า การลงพื้นที่ทุกครั้งเป็นการมารับฟังปัญหา เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณตามหลักการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่มาหาเสียง หรือมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลพยายามทำงาน 4 ปี เพื่อให้เกิดการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่เกิดความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการมอบนโยบายแก้ปัญหาจราจร ในกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าการกำหนดกรอบ 3 เดือน เป็นข้อสั่งการให้ตำรวจจราจร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแผนในการแก้ปัญหา เช่น การใช้เทคโนโลยีมาช่วยเหลือให้มากขึ้น ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่เรื่องการเพิ่มกำลังพล
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อน รักษะวาริน และดูการดำเนินการของศูนย์ฟื้นฟูสภาพด้วยแพทย์ทางเลือกที่โรงพยาบาลระนอง ก่อนไปตรวจเยี่ยมคือการพัฒนาท่าเทียบเรือระนอง ในตำบลบ้านเขานางหงส์ ท่าเทียบเรือน้ำลึก ที่จะใช้เป็นจุดขนส่งสินค้าทางเรือไปยังกลุ่มประเทศ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมาร์ ศรีลังกา ไทย และเนปาล หรือ BIMSTEC โดยจุดนี้ หอการค้าจังหวัดระนอง จะขอสนับสนุนงบประมาณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รองรับความเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี ในอนาคต
ทั้งนี้ ภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ทั้ง 2 กลุ่ม จะมีการเสนอขอให้เร่งรัดการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งทั้งสองฝั่ง เพื่อลดผลกระทบพื้นที่เกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในภาคใต้ รวมถึงจะเสนอให้ขยายเส้นทางพัฒนาท่องเที่ยวทะเลฝั่งจะวันตก โครงการไทยแลนด์รีเวียร่า จากเดินที่วางเส้นทางจาก เพชรบุรี -ชุมพร ให้ลงไปถึง จ.สงขลา เป็นต้น
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้