เปิดใจ “กานต์-เสือ-อีฟ”วางแผนให้คนปลอมเป็นมูลนิธิล็อคตัว “เสก โลโซ”ไปโรงพยาบาล


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กานต์ ยัน ผลตรวจ“เสก โลโซ” ไร้สารเสพติด ขณะที่ “เสือ ลูกชาย” เผยแผนแรก จะวางยาสลบพ่อแต่ไม่สำเร็จ จนต้องให้คนปลอมเป็นมูลนิธิไปล็อคตัวในบ้าน ด้าน “อีฟ” รับกลัว เสก ทำร้ายตัวเอง

จากกรณีที่ เสก โลโซ หรือ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย นักร้องชื่อดังไลฟ์สดผ่านมือถือมาราธอนติดต่อกันเป็นเวลากว่า 5 วัน โดยไม่หลับไม่นอน จน กานต์ วิภากร อดีตภรรยา พร้อม อีฟ อภิสร์ญา ภรรยาปัจจุบัน และ เสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย ลูกชายต้องวางแผนนำตัว เสก เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากป่วยเป็นโรคไบโพลาร์

ล่าสุดในวันนี้ 21 ส.ค.61 กานต์ วิภากร และ เสือ เสฏกานต์ และ อีฟ อภิสร์ญา ได้เปิดเผยถึงแผนการที่ต้องนำตัว เสก เข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการไบโพลาร์

โดย กานต์ กล่าวว่า ครั้งแรกตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่มีแฟนคลับได้มาบอกกับตนว่า เสก มีอาการป่วยหนัก ผ่านมา 2 วัน ตนจึงเข้าไปดูไลฟ์ของเสก ก็เห็นว่าอาการเขาหนักจริงและ หมอ บอกว่าเขาเป็นโรคไบโพลาร์ ระยะสุดท้าย  ประกอบกับอีฟ ได้ฝากให้คนที่รู้จักให้มาบอกกับตน จากนั้นจึงบอกกับเสือ ลูกชาย จึงมีการวางแผนพาตัวเสกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

ด้าน เสือ บอกว่า แผนการนำตัวพ่อไปรักษาครั้งแรก คือ วางยา โดยหายาน้ำมาให้พ่อดื่มเพื่อให้เขาได้นอนหลับ เพื่อจะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อไปหาซื้อยาที่โรงพยาบาลแล้วปรากฎว่า ไม่มียาน้ำ มีแต่ยาเม็ด ตนจึงไปสั่งยาสลบมา จากนั้นให้คุณอีฟ นำไปใส่ให้พ่อดื่ม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขานอนหลับแค่ครึ่งชั่วโมง

 จากนั้นในวันที่ 16 ส.ค. จึงเดินทางไปที่บ้านขอพ่อ เพื่อจะพาไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะทางรปภ.ไม่ให้เข้า เนื่องจากพ่อกำชับว่าใครมาหาให้โทรบอกก่อน จนวันที่ 18 ส.ค. ก็เดินทางไปอีกครั้งได้เจรจากับหัวหน้ารปภ. และนิติบุคคล รอจนถึงเวลา 20.00 น.ก็ยังเข้าไม่ได้  จึงวางแผนนำรถตู้มารับพร้อมให้ทีมล็อคตัวเข้าไปในบ้าน โดยแกล้งเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เข้าไปรับเงินบริจาค เพราะก่อนหน้านี้พ่อเคยบอกว่าจะบริจาคเงินกับมูลนิธิ เมื่อทีมล็อคตัวเข้าไปก็สามารถนำตัวพ่อไปรักษาได้สำเร็จ

ขณะที่ อีฟ บอกว่า แผนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้ารับเงินบริจาคนั้น เสก ไม่ทราบมาก่อน เพราะถ้ารู้จะไม่ให้เข้าไปในบ้านอย่างแน่นอน เมื่อเขาเห็นชาย 3 คนเข้าไปในบ้าน เหมือนเขาจะรู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะเขารู้ว่าสู้ไม่ได้จึงต้องยอม ส่วนเรื่องยานั้นตนไม่ใส่ให้เสกดื่มเขาจึงไม่ยอมหลับ

อีฟ เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้อาการของเสก ไม่หนักเท่านี้ แต่หลังจากที่เขาไม่ได้รับงานตั้งแต่เดือนมี.ค.เขาก็เริ่มมีอาการ ในช่วงที่ตนเองกลัวมากที่สุดคือตอนเขาเปิดเพลงเศร้า แล้วเขาร้องไห้  กลัวเสกจะทำร้ายตัวเอง ตนเองได้แต่อยู่ห่างๆ และปล่อยเขาให้เขาไลฟ์สดไป ที่ผ่านมายอมรับว่ามีอาการเครียด เพราะไม่ได้พูดคุยกับใคร ถ้าตนเองคุยโทรศัพท์ เสก เขาจะรู้สึกหวาดระแวงทันที และครั้งสุดท้ายที่เขาไปหาหมอ คือ เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย เพราะหมอบอกว่าอาการของเขาใกล้หายแล้ว เขาจึงไม่กินยารักษา

ส่วนอาการของเสก ในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นั้น กานต์ บอกว่า หมอบอกว่าเขาเป็นโรคไบโพลาร์ระยะสุดท้าย หากไม่รีบนำมาพบหมอเขาอาจเป็นโรคจิตถึงขั้นทำร้ายตัวเอง และ ขณะนี้ก็ให้หมอคอยควบคุมดูแล และหมอยังไม่สามารถบอกว่าต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานเท่าไหร่ ตอนนี้คงต้องปล่อยให้ เสก อยู่ตนเดียว อยู่ในตัวตนของเขาเอง ไม่อยากเข้าไปยุ่งปล่อยเป็นหน้าที่ของหมอ กลัวเขาจะมองเราไม่ดีที่เข้ายุ่งเกี่ยวกับเขา เพราะคราวที่แล้วก็เคยพาไปหาหมอเขาก็จะมาด่า คราวนี้ถ้าด่ามาก็จะด่ากลับเช่นกัน

 กานต์ ยืนยันว่า เสกไม่ได้เสพยาเสพติด เพราะผลตรวจปัสสาวะของหมอยืนยันว่าไม่มีการใช้สารเสพติด แต่เขาป่วย ในวันนี้ตนเอง จะเดินไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล ที่ผ่านมาเขาได้กล่าวพาดพิงถึงใคร ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะเขาป่วยจริงๆ และอยากให้แฟนคลับให้โอกาสและให้อภัยเขาด้วย

ด้าน เสือ บอกว่า หลังจากนี้ จะติดตามอาการของพ่อจากหมอเพราะตนเองเป็นเจ้าของคนไข้ เมื่อตนเดินทางกลับไปเรียนที่สหรัฐฯ ก็จะมอบอำนาจให้แม่ติดตามอาการชั่วคราว ยืนยันเรื่องนี้ไม่กระทบต่อการเรียนของตน เพราะเจอเรื่องลักษณะนี้มาตลอด และไม่เคยคิดน้อยใจ แต่ตนเองกลัวความรู้สึกของน้องๆมากกว่าที่เขาอาจจะน้อยใจพ่อ ตนเองต้องไปเรียนให้จบเพื่อกลับมาดูแลครอบครัวและหาเงินส่งน้องๆเรียนต่อไป

เสือ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองฝากของโทษบุคคลที่พ่อด่า อยากให้รู้ว่าพ่อป่วยคิดหวาดระแวง แต่ตนเชื่อบุคคลที่ถูกพ่อพาดพิงคงเข้าใจในเรื่องนี้ และ ที่ผ่านมาก็ได้โทรศัพท์ ไปคุยกับโอ๊ค พานทองแท้ ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็เข้าใจ

ขณะที่ อีฟ ระบุว่า หลังจากนี้คงต้องไปปรึกษา และขอคำแนะนำจากหมอว่าควรปฏิบัติกับเขาอย่างไรหากเสกออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ส่วนจะกระทบต่องานของเสก ในอนาคตหรือไม่ อีฟ บอกว่า ก็ยังมีการติดต่อมาบ้าง แต่เขาไม่รับงาน ส่วนสถานะทางการเงินช่วงนี้ก็หยุดชะงัก รายได้หลักก็มาจากลิขสิทธิ์เพลง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้ไปเก็บค่าลิขสิทธิ์

แต่ กานต์ กล่าวเสริมแบบติดตลก ว่า หากไม่มีใครไปเก็บค่าลิขสิทธิ์ตนจะไปเก็บให้เอง เมื่อเสกเป็นแบบนี้ก็มีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินเพราะต้องส่งเงินให้ลูกเรียน และเขาไม่ได้ส่งเงินมา 3-4 เดือนแล้ว หลังจากนี้ ตนเองต้องทำงานหนักขึ้น แต่เงินที่เสก ค้างไว้ตนจะต้องเอาคืนแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม :ปิดประวัติ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ”

อ่านเพิ่มเติม : รวม 5 เรื่องพีคของ “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์ดัง

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ