วันนี้ (31 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถเก๋ง และนอนเจ็บอยู่กลางถนน แต่ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังมีคนลงไปให้ความช่วยเหลือนั้น มีรถเก๋งสีบรอนซ์เงินคันหนึ่งขับมา และไม่ยอมชะลอความเร็ว จากนั้นทับเข้าที่ร่างของชายคนที่ขับรถจักรยานยนต์ ลากไปไกลถึง 800 เมตร
โดยล่าสุด นายมนู แสงโพธิ์แก้ว อายุ 43 ปี เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุได้ขับรถมาบ้านเพื่อนย่านสายไหมเมื่อทำธุระเสร็จประมานตี 2 จึงกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกว่าเหยียบอะไรบ้างอย่างและลากติดรถมาด้วย จึงตัดสินใจจอดและขับรถถอยหลังเพื่อให้สิ่งที่ติดอยู่ใต้ท้องรถหลุดออกไป หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน พอเช้าวันรุ่งขึ้นภรรยาได้ถามว่า รถไปชนอะไรมาทำไมกันชนถึงแตก ประจวบกับภรรยาดูข่าวในทีวีเห็นรถของตนเองก่อเหตุชนคนแล้วหนี จึงมั่นใจว่าขับรถทับคนจึงรีบเดินทางเข้าพบตำรวจ เพื่อยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือตามสมควร รวมทั้งไม่แสดงตัวต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงจากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย
ทั้งนี้ต่ นายมนู ได้เปิดใจอีกครั้งว่า ในคืนที่เกิดเหตุเห็นกลุ่มคนยืนอยู่และมีรถยนต์สีดำเปิดไฟสูง ซึ่งคิดว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพจึงพยายามขับรถผ่านไปแล้วรู้สึกว่าชนอะไรบางอย่างเข้า แต่ไม่แน่ใจจึงขับต่อไปอย่างไรก็ตามเตรียมจะเดินทางไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล และไปศาลมีนบุรีเพื่อดำเนินการเรื่องประกันตัว โดยก่อนกลับ นายมนู ได้เดินเข้าไปขอโทษญาติผู้บาดเจ็บด้วย