ยัน “สักลาย”ไม่ติด "เอชไอวี" แต่เสี่่ยงบาดทะยักหากไม่เปลี่ยนเข็ม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยืนยันสักลายไม่ทางติดเชื้อเอชไอวี เพราะเชื้ออยู่ด้านนอกร่างกายแค่1วินาทีก็ตาย ชี้ เอชไอวีเป็นเชื้อที่อยู่ใน เลือด,น้ำอสุจิ,น้ำหล่อลื่นในช่องคลอด, น้ำนมแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี เท่านั้น

จากกรณี สาววัย 22 ปี ได้เสียชีวิตจากการสักลายขาที่คลองหลอด โดยพ่อเผยว่าหลังจากสัก ลูกสาวเกิดปวดท้องอย่างรุนแรง แล้วเข้าหาหมอที่ จ.ปทุมธานี จนอาการดีขึ้น ต่อมาลูกสาวเดินทางไปหาญาติที่ จ.เชียงใหม่ แล้วเกิดปวดท้องรุนแรงอีก จึงส่งเข้าโรงพยาบาล จนตรวจพบว่าติดเชื้อ 'เอชไอวี ระดับ 3' จึงนำตัวกลับมารักษาที่ จ.เลย โดยหมอได้ฉีดวัคซีนต้านทานโรคให้ 1 เข็ม แต่ลูกสาวทนเจ็บไม่ไหว เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นเพื่อนอีก 3 คน ที่ไปสักด้วยกัน ได้เสียชีวิตด้วยการติดเชื้อเอชไอวีเช่นกัน โดยภายใน 1 เดือนตายถึง 4 ศพนั้น

วันนี้ 4ก.ย.61 พญ.อลิศรา ทัตตากร ผอ.กองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวบางช่วงบางตอนในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวี มี 3ระยะ คือ ระยะแรก เชื้อเข้าไปในร่างกาย ใน 2สัปดาห์จะมีอาการไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต บางคนก็ไม่รู้สึกอะไร ส่วนระยะที่ 2 คนไข้ไม่มีอาการใดๆ ระดับภูมิต้านทานก็ปกติ อยู่ได้ 8-10ปีแต่บางคนรับเชื้อเข้าไปมาก จะมีอาการปกติจะอยู่ได้เพียง 3ปี  ระยะที่ 3 คือ ภูมิต้านทานต่ำเม็ดเลือดขาวน้อยกว่า 200 จะมีโรคแทรก เช่นวัณโรค เชื้อรา ดังนั้นการที่ผู้ป่วยที่เสียชีวิตจะต้องติดเชื้อมาเป็นระยะเวลานานแล้ว หรือติดเชื้อมาประมาณ 3ปีขึ้นไป

ส่วนการสักลาย มีโอกาสจะติดเชื้อหรือไม่ ถ้าคนสักก่อนเรามีเชื้อเอชไอวี แล้วทางร้านไม่เปลี่ยนเข็ม และมีสิ่งปนเปื้อนก็จะทำให้เสี่ยงได้ แต่ถ้าร้านที่สะอาดเปลี่ยนเข็ม เปลี่ยนจานสีใหม่ ก็จะไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ส่วนร้านสักที่คลองหลอด มีการเปลี่ยนเข็มหรือไม่ ทางเจ้าของร้านบอกว่าเขาก็เปลี่ยนเข็มทุกครั้ง แต่เมื่อไปตรวจแล้วพบว่า เข็มที่เขาใช้อาจไม่ได้ปลอดเชื้อ และ จากการสอบถามเจ้าของร้าน พร้อมนำภาพหญิงวัย 22ปีมาให้ดู เจ้าของร้านบอกว่าไม่ใช่ไม่เคยเห็นลูกค้าคนนี้ เพราะที่ผ่านมาเขาจะจำลูกค้าของเขาได้ ส่วนจะต้องตามหาร้านที่หญิงวัย 22ปีไปสักหรือไม่นั้น ขณะนี้ที่คลองหลอดเหลืออยู่ร้านเดียวเท่านั้น ส่วนร้านอื่นได้ย้ายออกนอกพื้นที่ไปหมดแล้ว แต่จากการดูผลตรวจของหมอที่จ.เลย พบว่ามีการลงทะเบียนว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาก่อนแล้ว แต่ผู้ป่วยไปรับยาในส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าล้าช้ามาก จึงอยากฝากบอกไปยังผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีว่า ต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้มีอายุยืนยาวเหมือนคนปกติ ไม่ต้องรอให้อาการหนักแล้วค่อยรับประทานยา

ส่วนประชาชนที่ต้องการสักลาย จะต้องดูว่าร้านไหนปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนมีการเปลี่ยนเข็ม เปลี่ยนน้ำ เปลี่ยนจานใส่สีทุกครั้งหรือไม่ และอยากฝากไปยังผู้ประกอบการว่าถ้าไม่ขออนุญาตให้ถูกต้องก็จะผิดกฎหมาย

พญ.อลิศรา ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีข้อมูล หรือรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาจากการสัก ส่วนใหญ่คนไข้ติดเชื้อเอชไอวี มาจาการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย แต่การสักลายก็มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นกันหากคนที่มาสักก่อนติดเชื้อ แล้วทางร้านไม่เปลี่ยนเข็มสักให้

ด้านนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า เชื้อเอชไอวีเป็นเชื้อที่อยู่ใน เลือด,น้ำอสุจิ,น้ำหล่อลื่นในช่องคลอด, น้ำนมแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี เท่านั้น และเชื้อเอชไอวีไม่สามารถอยู่นอกร่างกายคนได้ ถ้าเชื้อออกมาด้านนอกอยู่ไม่ถึง1วินาทีเชื้อก็ตายไม่สามารถส่งต่อเชื้อให้คนอื่นได้ ดังนั้นการสักลายไม่มีทางติดเชื้อเอชไอวี และ จะมากังวลกับสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ความเสี่ยงจริงๆคือการมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ไม่ได้ป้องกัน

ส่วนกรณีของหญิงสาววัย 22ปีนั้น ตนแองเชื่อว่าพ่อของน้องอาจจะได้รับข้อความบางอย่างจากน้อง แต่สิ่งที่ตนกังวลคือ การที่โรงพยาบาลเปิดข้อมูลของผู้ป่วยเสมือนการไม่เคารพสิทธิของผู้ป่วย และการเอาข้อมูลของผู้ป่วยมาเปิดเผย เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง

ส่วนร้านสักที่ไม่เปลี่ยนเข็มมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ นายอภิวัฒน์ ย้ำว่า  เชื้อเอชไอวีอยู่ภายนอกได้ไม่ถึง1วินาทีก็ตายแล้ว แต่ที่เป็นห่วง คือเรื่องบาดทะยักมากกว่า และ การนำเรื่องโรคเอชไอวี ไปปนกับเรื่องอื่นจะทำให้ประชาชนรู้สึกสับสน และจะกลายเป็นความเข้าใจผิดได้

“ถึงแม้เลือดคนที่ติดเชื้ออยู่บนเข็มสักก็เป็นแค่เลือดไม่มีเชื้อเอชไอวี เพราะเชื้ออยู่ภายนอกได้แค่1วินาทีเท่านั้น ถึงแม้จะสักเข้าไปก็ไม่สามารถติดเชื้อได้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องความสะอาด เรื่องของบาดทะยัก”นายอภิวัฒน์ กล่าว

นายอภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนเองรู้สึกกังวลกับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงให้ข้อมูลกับสื่อ ซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่เป็นการไปซ้ำเติมปัญหาอีก ตนเองพูดในฐานะเป็นคนที่ติดเชื้อเอชไอวี แต่ปัจจุบันเมื่อเจาะเลือดผลตรวจออกมาไม่มีเชื้อเอชไอวีในเลือดแล้ว เพราะกินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันถ้าผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี สามารถเข้าไปรับการตรวจได้ปีละ 2ครั้ง และจะได้รับยาต้านเชื้อเอชไอวีทันที เพื่อไม่ให้ป่วยเป็นโรคเอดส์ และถ้าคิดว่าเสี่ยงหรือมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวี สามารถโทรไปปรึกษาได้ที่สายด่วน 1663  

ดูคลิปเต็มได้ที่นี่>>>"ปธ.เครือข่ายเอดส์" ยัน สักลายไม่ติด HIV 100% เพราะเชื้อจะตายทันทีเมื่อโดนอากาศ

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ