วันนี้ (10 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำปราจีนบุรี ลุ่มน้ำนครนายก ลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นวาระสำคัญในที่ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ สทนช. หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าช่วงเดือนนี้ภาคกลางจะมีฝนตกต่อเนื่อง จนอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยแผนผังพื้นผิวสภาพอากาศภาคกลาง ภาคอีสานตอนล่าง และภาคเหนือ กลายเป็นเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้ประเมินสภาพน้ำในแหล่งน้ำและลำน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือป้องกันและช่วยเหลือประชาชน
นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่สั่งให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ได้แก่ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำนครนายก ลุ่มน้ำปราจีนบุรี และ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด จันทบุรี เพชรบุรี โดยได้มีการวางแนวทางไว้ 3 รูปแบบ โดยเฉพาะการเร่งพร่องน้ำในพื้นที่ฝนตก ในลุ่มน้ำ จังหวัดปราจีนบุรี นครนายก ผันเข้าคลองชลประทานฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันการเสี่ยงน้ำท่วม เพราะมีบางพื้นที่เริ่มได้รับปัญหาแล้ว
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการหารือบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีด้วย หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าปลายกันยายนถึงตุลาคม น้ำเหนือเขื่อนอาจเพิ่มขึ้นเพราะฝนตก ซึ่งกรมชลประทานมีการวางแผนพร่องน้ำ เพื่อรอรับน้ำก้อนใหม่ที่จะเติมลงมา