เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2561 นพ. นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันว่า ผลการสอบสวนพยาบาลและตรวจสอบบันทึกเวชระเบียน กรณีเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่เสียชีวิตระหว่างการนำส่งโรงพยาบาลบางพลี ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางโฉลง (รพ.สต.บางโฉลง) เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยต้องรอผลการชันสูตรศพอย่างละเอียด ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโดยโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ยังต้องใช้เวลา
ขณะที่นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ออกมาแนะนำครอบครัวผู้เสียหายว่า สามารถรอผลการชันสูตรของสาธารณะสุขจังหวัดสมุทรปราการได้ แต่หากมีข้อสงสัยหรือรู้สึกไม่พอใจกับผลการชันสูตร สามารถทำเรื่องร้องเรียนมาที่เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
นางปิยนันท์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเครื่องข่ายนี้ บอกว่ากังวลกับผลการชันสูตรและผลการสอบสวนของสาธารณสุขจังหวัด เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ รพ.สต.บางโฉลง และยังส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลของรัฐบาลด้วย ซึ่งผลการชันสูตรอาจทำให้สังคมสงสัย
พร้อมกันนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดพยาบาลที่ รพ.สต.บางโฉลง ไม่ส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที่ที่มาถึง ทั้งที่ข้อมูลจากการซักประวัติผู้ป่วยเริ่มปวดท้องมาก่อนแล้ว 1 วัน และข้ออ้างที่บอกว่าต้องรอผู้ปกครองเซ็นยินยอมก่อนอาจใช้ไม่ได้ เพราะขั้นตอนเรื่องเอกสารสามารถทำย้อนหลังได้
ขณะที่การสอบถามข้อมูลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคลำใส้อักเสบ กับแพทย์ที่อยู่ในเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ พบว่า ผู้ป่วยที่มีอาการลำใส้อักเสบ เริ่มต้นจะมีอาการปวดท้อง แต่ไม่รุนแรง โดยอาการจะเพิ่มระดับการปวดต่อเนื่องมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคลำใส้อักเสบ จะไม่มีอาการอาเจียน แต่จะพบมีความรุนแรงของอาการปวดต่อเมื่อร่างกายขาดน้ำ หรือเกลือแร่
ด้าน ผศ.อังคณา สริยาภรณ์ความเห็นของเลขาธิการสภาการพยาบาล ยืนยันว่า ประวัติอาการป่วยของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษา หากมีการให้ข้อมูลโดยละเอียดก็จะสามารถช่วยเหลือ และส่งตัวไปรพ.ได้ทันท่วงที
เลขาธิการสภาการพยาบาล ชี้แจงอีกว่า รพ.สต. เป็นสถานพยาบาลชุมชน ที่รักษาอาการเบื้องต้นเท่านั้น เจ้าหน้าที่จะดูแลและประเมินอาการผู้ป่วยไปตามอาการ และระยะเวลาในการประเมินอาการขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยมีอาการที่บ่งชี้ว่าเกินกำลังที่ รพ.สต.รับไหวเจ้าหน้าที่จะส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อที่ รพ. ใกล้เคียง ซึ่งมีศักยภาพในการรักษามากกว่า ทั้งด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ และประวัติอาการป่วยของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษา หากมีการให้ข้อมูลโดยละเอียดก็จะสามารถช่วยเหลือ และส่งตัวไปรพ.ได้ทัน
สำหรับ รพ.สต. ในประประเทศไทยมีมากถึง 7,000 แห่ง แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้มี รพ.สต. หลายแห่งยังขาดแคลน บุคคลากร เวชภัณฑ์การรักษา และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น เครื่องมือวัดความดันเด็กที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ใหญ่ได้ ซึ่งปัญหาส่วนนี้อาจส่งผลต่อศักยภาพการรักษาพยาบาลได้
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
