วารสารสมาคมการแพทย์แคนาดา ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่ระบุว่า เด็กแรกเกิดอายุ 3 ถึง 4 เดือน ที่อาศัยในบ้านซึ่งใช้น้ำยาฆ่าเชื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มีแนวโน้มที่จะมีเชื้อแบคทีเรียแลคโนสปิราซี (Lachnospiraceae) ในลำไส้มากกว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อถึง 2 เท่า
โดยการศึกษา พบว่า เมื่อเด็กแรกเกิดที่มีปริมาณเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวมากกว่าปกติ มีอายุครบ 3 ขวบ ดัชนีมวลกายของเด็กเหล่านี้จะสูงกว่าเด็กทั่วๆไป
อานิตา โคเซียสกี้ ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชของมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิจัย ระบุว่า ผลการศึกษาในสัตว์หลายๆชิ้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างปริมาณแบคทีเรียดังกล่าวกับการเพิ่มขึ้นของไขมันในร่างกายและภาวะต่อต้านอินซูลิน
อย่างไรก็ตาม โคเซียสกี้ ระบุว่า ผลวิจัยดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปหรือฟันธงได้ว่าการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในบ้าน คือ สาเหตุหลักของภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก แม้จะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำยาฆ่าเชื้อและปริมาณแบคทีเรียในลำไส้ที่สูงขึ้นก็ตาม
งานวิจัยนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ประจำภาควิชาระบาดวิทยาของวิทยาลัยสาธารณสุขจอนส์ ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ของสหรัฐฯ ที่มองว่า ผลการวิจัยมีเหตุผลที่รับฟังได้ในเชิงชีววิทยา เนื่องจากแบคทีเรียที่มนุษย์เรารับเข้าสู่ร่างกายในช่วงแรกเกิด จะเป็นปัจจัยกำหนดระบบเผาผลาญและการเรียนรู้ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สอดคล้องกับ ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ที่พบว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นกับกระบวนการตามธรรมชาติของแบคทีเรียในลำไส้เด็กแรกเกิด ซึ่งมีหลายสาเหตุ ทั้งจากการผ่าคลอด การกินยาปฏิชีวนะทั้งก่อนและหลังคลอด รวมทั้งสูตรนมผง ล้วนมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของการเกิดภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้