เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2561 เครือข่ายผู้พิทักษ์สิทธิ์คนพิการ นำหลักฐาน เป็นเอกสาร ที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสนับสนุนการจ้างงานคนพิการ มอบต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้เข้าตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานคนพิการ ที่ทางเครือข่ายระบุว่า มีความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท และขอให้ผลักดันให้เป็นคดีพิเศษ รวมทั้งเรียกร้องให้ดีเอสไอคุ้มครองพยานที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์ด้วย โดยนายบัณฑิต สังขนันท์ ผู้อำนวยการส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง
นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายผู้พิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริต ที่ทางเครือข่ายระบุว่าเป็น “นายใหญ่” และมองว่า การที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกแถลงข่าวตอบโต้อย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ ที่ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ว่าไม่มีการทุจริตเกี่ยวกับคนพิการ อาจขัดแย้งกับหลักฐานที่เครือข่ายฯรวบรวมมาตลอด 3 ปี ซึ่งพบการทุจริตเงินคนพิการในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์
เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ยังมอบหลักฐานเพิ่มเติม ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมบอกต่อนายอัญญะรัฐ เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชนว่า ผู้พิการส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งมีสถานะเป็นผู้ดูแลคนพิการ มาร่วมร้องเรียนเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย พร้อมเปิดเผยว่า เพิ่งทราบถึงสิทธิ์ต่างๆ ที่ผู้พิการควร และผู้ดูแลคนพิการควรจะได้รับ จึงกล้าออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหาย เพราะมีสิทธิบางประการที่ถูกเบียดบังไป
ทางเครือข่าย ยังระบุว่า อยากให้มีการเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงที่ทางสถานประกอบการต่างๆ ต้องรับคนพิการเข้าทำงานในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งอาจเป็นช่องว่างให้คนพิการถูกนำไปใช้ทุจริตการจ้างงานอีก
อ่านเพิ่มเติม: เครือข่ายคนพิการ ร้องนายกฯ สอบปมทุจริตจ้างงานเสียหายกว่า 1.5 พันล้าน
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้