วันนี้ (20 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรคภาค 1 เป็นเจ้าภาพในการนำทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดได้จากกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ มีมูลค่ากว่า 52 ล้านบาท คืนให้กับประชาชน รวมทั้งเรียกนายทุนและลูกหนี้มาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน
ทั้งนี้ มาตรการคืนโฉนดที่ดิน และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในพื้นที่ 9 จังหวัด โดย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะประธานในพิธี ได้คืนโฉนดที่ดินพร้อมทั้งทรัพย์สินให้กับประชาชนรวมทั้งสิ้น 111 ราย ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 116 ฉบับ รถยนต์ 28 คัน รถจักรยานยนต์ 47 คัน เล่มทะเบียนรถ 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 20 ใบ และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 52 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุวัฒน์ บอกว่า การปราบปรามกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน และเชื่อว่าหากปราบปรามกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนได้ทั้งหมดแล้ว จะทำให้ประชาชนมีความสุขขึ้นได้ พร้อมกำชับว่าขอให้ประชาชนที่ได้โฉนดที่ดินและทรัพย์สินคืนไปแล้ว อย่าไปกู้เงินนอกระบบอีกครั้ง จนกลับมาสู่วังวนเป็นหนี้ท่วมตัวเหมือมเดิม
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางเข้าร้องเรียน หลังถูกนายทุนปล่อยเงินกู้ยึดที่ดิน โดยหญิงรายนี้ อ้างว่า ตนเองไปกู้เงินนอกระบบเพื่อนำเงินมาซ่อมแซมบ้านพัก แต่ถูกนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้หาเงินไปชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ว แต่นายทุนรายดังกล่าวกลับไม่คืนที่ดินให้ และล่าสุดก็กำลังจะเสียบ้านไปด้วย เบื้องต้นทางตำรวจได้นำตัวชาวบ้านไปสอบปากคำเพื่อรับเรื่องร้องต่อไป
ภารกิจที่ดำเนินการมาจะไม่จบแค่วันนี้ เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกลุ่มปล่อยกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยโหด และเอารัดเอาเปรียบประชาชนอีกจำนวนมาก พร้อมขอให้ประชาชนแจ้งข่าวสารต่อญาติพี่น้องที่ประสบปัญหาเดียวกันให้ติดต่อหน่วยงานรัฐเพื่อเข้าสู่กลไกช่วยเหลือต่อไป
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้