เมื่อวันที่ (20 ก.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่เป็นการเตรียมความพร้อมบนเวที ที่ พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับบทพิธีกรบนเวที่ภายในศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี ที่ย้ำกับผู้มาร่วมงานหลายครั้งว่า โครงการนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ
ระหว่างเปิดงานมีชาวบ้านจาก จ.กาฬสินธุ์ ที่อ้างว่าถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบโกงที่ดิน เข้าร้องเรียน พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยตรง พร้อมเล่าทั้งน้ำตาว่า กู้เงินจากนายทุนดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน มาซ่อมแซมบ้านที่ จ.ลพบุรี และชำระเงินต้นและดอกครบแล้ว แต่นายทุนไม่ยอมคืนโฉนดที่ดินให้ และกำลังจะเสียบ้านไป โดย พล.ต.ท.สุวัฒน์ระบุว่า ปัญหาหนี้นอกระบบยังมีปัญหาอีกมากทั้งรายย่อยและรายใหญ่ โดยเฉพาะ ที่ จ.ลพบุรี ชาวบ้านถูกนายทุนคนเดียวกันยึดโฉนดที่ดินไปถึง 55 โฉนด
โครงการนี้เป็นครั้งที่ 2 ของพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 สามารถดำเนินคดีและเจรจาไกล่เกลี่ยคืนโฉนดที่ดินได้ 116 ฉบับ รถยนต์ 28 คัน รถจักรยานยนต์ 47 คัน เล่มทะเบียนรถ 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 20 ใบ และทรัพย์สินอื่นๆ รวมกว่า 52 ล้านบาท
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อมอบโฉนดที่ดิน 12 จังหวัดในภาคอีสาน 1,441 ฉบับ คิดเป็นเงินกว่า 3 พันล้านบาท ให้กับชาวบ้าน ทำให้พวกเขาถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ หลังถูกกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบใช้วิธีแก้ไขเอกสาร รวมถึงคิดดอกเบี้ยเกินกำหนด ยึดทรัพย์สินและโฉนดที่ดินชาวบ้านไปและจะเดินหน้าโครงการต่อไป
การปฏิบัติล้างหนี้นอกระบบของรัฐบาล ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถคืนโฉนดที่ดินที่ถูกฉ้อโกงไปแล้วกว่า 8 พันฉบับ คิดเป็นเงินกว่า 1 หมื่น 8 พันล้านบาทและยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก