เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.61) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเสวนา “สานพลังพันธมิตร เพื่อไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน” จัดโดย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทย และรัฐบาล พร้อมสนับสนุนการบินไทยในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายแล้ว โดยระบุว่า สิ่งที่การบินไทยต้องทำ คือ สื่อสารให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจทั้งหมดรับรู้ถึงทิศทางยุทธศาสตร์ที่การบินไทยจะขับเคลื่อน ซึ่งปัญหาขาดทุนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากมียุทธศาสตร์ชัดเจน ทำอย่างไรที่จะมีรายได้เพิ่ม แน่นอนว่าต้องมีเครื่องบินที่ดี ดังนั้นต้องวางแผนเส้นทางการบินใหม่ที่สอดรับ แต่เครื่องบินจะซื้อแบบไหน ต้องผ่านกระบวนการองค์กรกันอย่างไร แผนเหล่านี้ต้องชัดเจนก่อนสิ้นปีหรือภายใน 3 เดือน
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ดการบินไทย กล่าวว่า การบินไทย มีเป้าหมายที่จะติดอันดับ 1 ใน 5 หรือ Top 5 ของโลกภายในปี 2565 ต้องการเป็นสายการบินแห่งชาติที่ทุกคนภูมิใจ และเป็น “National Premium Airline” ทั้งนี้ ปัญหาขาดทุน เครื่องบินเก่า และค่าซ่อมบำรุงแพง จะต้องแก้ไข ซึ่งแผนการจัดซื้อเครื่องบิน 23 ลำมูลค่ากว่าแสนล้านบาทนั้น แผนการซื้อเครื่องบินใหม่อาจไม่ใช่ 23 ลำ และอาจไม่ใช่วงเงินแสนล้านบาทตามเดิม ประเด็นนี้ขอเวลา 3 เดือนในการปรับปรุงแผน รวมถึงความชัดเจนของแหล่งเงินด้วย
ขณะที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า ปัญหาขาดทุนจะแก้ได้ในปี 2565 และปี 2570 จะมีกำไรที่ยั่งยืน สามารถขยายธุรกิจเป็นผู้นำในเอเชียทั้งขนส่งผู้โดยสารและสินค้า โดยการบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แข่งขันได้