“ปอร์เช่” กำลังจะกลายเป็นค่ายรถยักษ์ใหญ่แห่งแรกของเยอรมนี ที่จะเลิกผลิตรถเครื่องยนต์ดีเซล โดยจะเน้นผลิตเฉพาะรถเครื่องยนต์เบนซิน รถยนต์ไฮบริด รวมถึงหันไปลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
สาเหตุหลักที่ทางบริษัทตัดสินใจเลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซล นอกจากเรื่องสมรรถนะ ที่สู้เครื่องยนต์เบนซินไม่ได้แล้ว รวมถึงยังมีเรื่องของกระแสโลกที่หันมาให้ความสนใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตื่นตัวและผลักดันนโยบายลดมลพิษจากการขับขี่ เฉพาะในเยอรมนี มีหลายเมืองที่บังคับใช้กฎหมายห้ามรถยนต์ดีเซลรุ่นเก่าวิ่งบนถนนแล้ว เนื่องจากถือเป็นตัวก่อมลพิษ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องข่าวอื้อฉาวของบริษัทแม่อย่าง “โฟล์กสวาเกน” ที่ถูกจับได้ว่าโกงผลการตรวจวัดระดับการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ เมื่อปี 2015 และถูกปรับเป็นเงินเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเครื่องยนต์ดีเซลแย่ลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของบริษัทยืนยันว่า ลูกค้าที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท จะยังได้รับบริการหลังการขายอย่างดีต่อไป ส่วนบริษัทจะหันมาจริงจังในการลงทุนวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองกับเทรนด์ของตลาดรถยนต์ที่กำลังเปลี่ยนไป
นอกจากปอร์เช่ ปัจจุบัน มีค่ายรถอีกจำนวนมากที่ประกาศยกเลิกการผลิตรถเครื่องยนต์ดีเซลป้อนตลาดยุโรป อาทิ โตโยต้า ซูบารุ และนิสสัน
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้