การขึ้นเวทีดีเบตของบารัก โอบามา จากพรรคเดโมแครต และมิตต์ รอมนี จากพรรครีพับลิกัน เมื่อปี 2012 แม้จะเป็นครั้งที่ 2 ในการลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯของบารัก โอบามา แต่ประชาชนจำนวนมาก ต่างเฝ้าดูการแสดงวิสัยทัศน์บนเวที เพราะหากทำได้ไม่ดี อาจเป็นวินาทีพลิกประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชวดตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ได้เลย
นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้า ระบุว่า การดีเบต เปรียบเสมือนการโต้วาทีและเป็นเวทีประชันวิสัยทัศน์ของพรรคการเมือง โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็คือประชาชน ที่จะได้พิสูจน์วิธีคิด และไหวพริบของผู้นำ ว่าจะสามารถขับเคลื่อนนโยบายของพรรคได้จริงหรือไม่
ที่ผ่านมาหลายประเทศพยายามที่จะผลักดันเวทีดีเบตนักการเมืองขึ้นหลายครั้ง เช่นเดียวกับประเทศไทย แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ นายสติธร มองว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบอบรัฐสภาของประเทศไทยประกอบด้วยหลายพรรคการเมืองไม่เหมือนการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี เมื่อนำมาขึ้นเวทีรวมกัน ก็ทำให้กลายเป็นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ทั่วไปมากกว่า และอีกหนึ่งเหตุผลคือไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรคการเมือง
สอดคล้องกับดร.นันทนา นันทวโรภาสคณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริกที่มองว่า สาเหตุที่นักการเมืองบางส่วนไม่ตอบรับการดีเบต เป็นเพราะส่วนหนึ่งมีฐานเสียงของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งกลัวเสียเปรียบ และอีกส่วนคืออยู่ในช่วงสงวนท่าที
คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ให้ความเห็นว่า แม้ที่ผ่านมาพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคจะไม่ให้ความสำคัญกับเวทีดีเบต เพราะสามารถจัดเวทีใหญ่พูดอยู่ฝ่ายเดียวได้ แต่บริบทการเมืองปัจจุบันมีกลุ่มคนหน้าใหม่อีกหลายล้านคนที่ยังไม่เคยเลือกตั้งมาก่อน หากมุ่งเน้นหาเสียงเฉพาะฐานเสียงกลุ่มเดิม ก็อาจเสียโอกาสจากคนหน้าใหม่กลุ่มนี้
อ่านเพิ่มเติม: ผลโหวต 85 % ประชาชนอยากเห็น “ประยุทธ์” ดีเบต “ธนาธร”
อ่านเพิ่มเติม: "ธนาธร" พร้อมดีเบต “อนาคต” กับ "ประยุทธ์" ในวันเปิดหน้าเป็นแคนดิเดตนายกฯ
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้