วันนี้ (4 ต.ค.61) ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้คำนวณความดังของเสียงระฆังจากหอระฆังวัดไทรจนถึงคอนโดมิเนียม ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Sathon Vijarnwannaluk พบว่า ความดังอยู่ที่ 62 เดซิเบล
ทีมนิวมีเดียพีพีทีวี สัมภาษณ์ ดร.สธน ซึ่งได้รับคำอธิบายว่า จากการคำนวณตามหลักฟิสิกส์ เพื่อวัดความดังของเสียงระฆังที่ตีจากหอระฆังวัดไทร โดยคำนวณจากความสูงของหอระฆัง 12 เมตร ความดังของเสียงระฆังที่ตี 120 เดซิเบล ซึ่งเป็นความดังสูงสุดที่หูของมนุษย์สามารถรับได้โดยไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ เนื่องจากดูคลิปแล้วพระลูกวัดที่ตีไม่ได้มีอาการแสบหู และระยะห่างระหว่างหอระฆังกับคอนโดมิเนียม ซึ่งตามข่าวอยู่ห่างกัน 800 เมตร และกำหนดให้ความสูงของคอนโดมิเนียมเท่ากับความสูงของหอระฆัง คือ 12 เมตร พบว่า ความดังของเสียงระฆังที่ดังที่สุดเมื่อถึงคอนโดมิเนียมในความสูงเดียวกับหอระฆัง ซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 ของคอนโด อยู่ที่ 62 เดซิเบล หากอยู่คอนโดมิเนียมชั้นสูงขึ้นไปเช่น ชั้น 5 ชั้น 6 ชั้น 7 เสียงของระฆังที่ได้ยินจะเบาลงเหลือ 60 เดซิเบล
ดร.สธน กล่าวต่อว่า หากวัดระยะห่างของหอระฆังกับคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 300 เมตร จากเดิม 800 เมตร เนื่องจากมีบางคนบอกว่าระยะห่างของหอระฆังกับคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 300 เมตร ความดังสูงสุดที่ผู้อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมจะได้ยินคือ 70 เดซิเบล
ทั้งนี้ ดร.สธน กล่าวว่า ความดังของเสียงขนาด 60 เดซิเบล เปรียบเหมือนกับเปิดทีวีเสียงดังระหว่างที่อยู่ในห้อง หรือคุยกับเพื่อนที่ยืนห่างกันระยะ 3 เมตร หรือเสียงดังเท่ากับการใช้งานเครื่องดูดฝุ่น ส่วนความดัง 70 เดซิเบล เทียบเสียงเหมือนยืนใกล้ๆ เครื่องดูดฝุ่น หรือเสียงดังเหมือนยืนริมถนน
อย่างไรก็ตาม ดร.สธน กล่าวว่า วันนี้ต้องมาดูเรื่องของบริบทสังคม สมัยก่อนชาวบ้านกับวัดอาศัยอยู่ร่วมกัน และยังไม่มีนาฬิกาปลุก ชาวบ้านจึงฟังเสียงระฆังจากวัด ดังนั้นชุมชนที่อยู่ร่วมกับวัดจึงไม่ได้รู้สึกรำคาญ แต่เมื่อมีคอนโดมิเนียม คนที่มาอยู่ก็มีสังคมอีกแบบหนึ่ง จึงต้องปรับตัวเข้าหากันทั้งสังคมชนบทและสังคมเมือง
อ่านข่าว :
เปิดแนวทางเสียงระฆัง “วัด-คอนโด” อยู่ร่วมกัน
“หอระฆัง-หอกลอง” จารีตของศาสนาพุทธ
พระลูกวัดไทร เผยมีหญิงสาวรายเดียวในคอนโดฯ ร้องเรียนเสียงระฆังกว่า 2 ปี
เปิดประวัติ “วัดไทร” อายุ 300 ปี