เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561 ตามปกติแล้วประเพณีเป่าแคน เฝ้าศพ ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง ปกาเกอะญอ จะจัดขึ้นที่บ้านผู้เสียชีวิต และจะไม่ทำที่วัด แต่เพราะยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพปู่คออี้ กลับไปที่บ้านบางกลอยได้ การเป่าแคนเฝ้าศพจึงถูกทำไปก่อน ระหว่างรอเคลื่อนย้ายศพกลับไปบ้านบางกลอย
เสียงเพลงและจังหวะดนตรีสำเนียงปกาเกอะญอ ลูกหลานของปู่คออี้ตั้งใจบรรเลงตามประเพณีที่สืบสานกันมา โดยใช้แคนประจำตัวของปู่คออี้ ซึ่งใช้งานมานานกว่า 30ปี
โดยลูกสาวและลูกหลานของปูคออี้ ตั้งวงประมาณ 10-15 คน หน้าศพ โดย 1 คนจะทำหน้าที่เป่าแคน สวนที่เหลือร้องเพลงประสานเสียง โดยใช้ภาษาของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ
พวกเขาอธิบายว่า พิธีกรรมแบบนี้ เรียกว่า เป่าแคน เฝ้าศพ เป็นประเพณีที่มีมาแต่ช้านาน เมื่อมีผู้เสียชีวิต ศพจะถูกเก็บไว้ที่บ้าน 3 คืน ก่อนนำไปเผา หรือ ฝัง คนที่มาเฝ้าศพ จะเริ่มเป่าแคนและร้องเพลงตั้งแต่หัวค่ำ ไปจนถึงรุ่งเช้า ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะยอ การเป่าแคน เฝ้าศพ เพื่อจะให้วิญญาณมีความสุข คนมาร่วมงานไม่โศกเศร้า และช่วยไม่ให้คนเฝ้าศพง่วง
สำหรับภาพถ่ายของปู่คออี้ในอิริยาบถต่างๆ ถูกนำมาติดไว้ทั่วศาลาวัดแก่งกระจาน ทั้งภาพขณะที่ปู่คออี้นั่งวีลแชร์ไหว้ในหลวงรัชกาลที่ 9 และภาพขณะที่ขึ้นศาล เพื่อฟังคำพิพากษา คดีตกเป็นจำเลยฐานบุกรุกบ้านเกิดของตัวเอง ที่มีสถานะเป็นที่ดินของรัฐ เมื่อเดือนมิ.ย. 2561
แม้ว่าปู่คออี้ ได้สั่งเสียก่อนเสียชีวิตว่าไม่ให้ทำพิธีศพที่วัด แต่เมื่อศพยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายกลับบ้านที่บ้านบางกลอยได้ เนื่องจากเส้นทางถูกน้ำท่วม ทำให้ระหว่างรอเคลื่อนย้ายศพในเช้าวันอังคาร ลูกหลานจึงจัดพิธีสวดอภิธรรมศพที่วัดแก่งกระจานก่อน ทำให้ให้ตลอด 3 วันที่ศพอยู่ที่วัด มีเจ้าหน้าที่ทั้งจากหน่วยงานราชการ องค์กรที่เคยให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน และเครือข่ายชาวกะเหรี่ยง เดินทางมากราบศพอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (8ต.ค.2561)ที่วัดแก่นกระจาน องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน กำหนดจัดกิจกรรมเสวนา เกี่ยวกับสิทธิการอยู่อาศัย คนอยู่กับป่า เพื่อสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
อ่านเพิ่มเติม :
ด่วน! “ปู่คออี้” จากไปอย่างสงบแล้ว ด้วยวัย 107 ปี
“ลืมตามาที่ใจแผ่นดิน” เสียงก้องโลก “ปู่คออี้” กะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจาน
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้