วันนี้ (10 ต.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาฟังอัยการสั่งฟ้องในคดีร่วมกันฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ที่นายพานทองแท้ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนายวันชัย หงษ์เหิน เป็นจำเลย กรณีการทำธุรกรรมโดยมิชอบ เป็นจำนวนเงิน 36 ล้านบาท หลังจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งผลสอบเพิ่มเติมให้แก่พนักงานอัยการ โดยมีนางสาวพิณทองทา ชินวัตร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร น้องสาว และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาให้กำลังใจกันจำนวนมาก
นายทรัมพ์ ชาลีจันทร์ และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวคดีนี้ ระบุว่า ทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้มีคำสั่งฟ้องนายพานทองแท้ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน ที่มีการรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งจะฟ้องเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2542 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ ความผิดฐานฟอกเงินมีโทษจำคุก 1-10 ปี ซึ่งมีอายุความไม่เกิน 15 ปี
สำหรับกรณีเช็ค 26 ล้านบาท อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายพานทองแท้ ผู้ต้องหาที่ 4 และไม่ฟ้องนางเกศินี จิปิภพ (มารดาของ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน) ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งความเห็นส่วนนี้อัยการก็จะต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นดังกล่าวกลับไปให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่
ส่วน นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 กับนายวันชัย หงษ์เหิน สามี ผู้ต้องหาที่ 3 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงินโดยบุคคลทั้งสอง ตามสำนวนการสอบสวนก็กล่าวหาเฉพาะการรับเช็ค 26 ล้านบาทเท่านั้น การสั่งคดีของอัยการส่วนนี้จึงครบถ้วนแล้ว โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้แก่ นายพานทองแท้ นางกาญจนาภา และนายวันชัย ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจำเลยได้เตรียมเงินสดไว้ยื่นประกันตัวด้วย
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้