เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของหญิง อายุ 72 ปี ที่เสียชีวิตระหว่างร้อยไหมเสริมความงามภายในคลินิกแห่งหนึ่งย่านทาวน์อินทาวน์ เดินทางเข้ารับศพผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา มีรายงานว่า แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผลตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงคนนี้ว่าเกิดจากตับแตกและพบว่ามีซี่โครงหัก
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อติดตามคดี พร้อมเปิดเผยผลการสอบปากคำแพทย์เจ้าของคลินิก พบว่า ก่อนเริ่มร้อยไหมแพทย์ใช้ยาชาชนิดทา ประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นเริ่มฉีดยาชาให้คนไข้ ทั้งหมด 24 เข็ม รวม 12 ซีซี และพบว่า คนไข้เริ่มมีอาการความดันต่ำจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการ CPR แต่สุดท้ายคนไข้เสียชีวิตลง และยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ตาย แพ้ยาชาตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจาก ต้องรอการตรวจหาสารเคมีในร่างกาย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน
ส่วนการตรวจใบอนุญาต พบว่า คลินิกแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล แพทย์เจ้าของคลินิก อ้างว่า อยู่ในขั้นตอนดำเนินการขอใบอนุญาต
ส่วนตัวนายแพทย์เจ้าของคลินิก พบว่า มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้อง เบื้องต้นตำรวจเรียกแพทย์คนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาฐานเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ต้องมีการสอบสวนถึงรายละเอียดในเหตุการณ์ เช่น ระหว่างการร้อยไหมมีแพทย์คอยควบคุมดูแลหรือไม่ รวมถึงเรื่องมาตรฐานยาและผลิตภัณฑ์
สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ พบว่า เคยเข้ารักษาที่คลินิกสาขาแรกของแพทย์รายนี้ โดยมีประวัติการรักษาตั้งแต่ปี 2555 แต่คลินิกแห่งนี้เป็นสาขาที่ 2 ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า เคยมีประชาชนร้องเรียนให้ตรวจสอบคลินิกแห่งนี้ สำนักงานเขตวังทองหลางยืนยันว่าไม่เคยมีผู้มาร้องเรียน แต่หลังจากนี้ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่า เป็นการเช่าห้องภายในอพาร์ตเมนต์เช่าอาศัยจากเจ้าของห้องที่อยู่ต่างประเทศ จำนวน 15 ห้อง ก่อนจะทุบผนัง เพื่อทำเป็นห้องรักษา
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้