เมื่อวันที่ (15 ต.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพร่องน้ำบริเวณบ้านท่าสูงบน หมู่ที่ 4 ตำลบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งชาวประมงพื้นบ้าน และกลุ่มเรือประมงพาณิชย์กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากซากเรือบรรทุกแร่ “โชคอำนวย” ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่กว้าง 12 เมตร ยาว 24 เมตร ได้อับปางลงกลางร่องน้ำเดินเรือที่ระดับความลึกกว่า 5 เมตร เมื่อช่วงฤดูมรสุมปีที่ผ่านมา โดยเมื่อน้ำลดลงทำให้พบเห็นเรือจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาประมาณ 1 เมตร และเมื่อน้ำขึ้นเต็มที่ระดับน้ำจะปริ่มยากต่อการสังเกตในช่วงการเดินเรือโดยเฉพาะเวลากลางคืนและไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้เรือประมงขนาดเล็กที่ผ่านเข้าออกร่องน้ำนี้เกิดอุบัติเหตุจนเรือล่มไปแล้วหลายลำ
ขณะที่ชาวบ้านตำบลท่าศาลาซึ่งเป็นชาวประมงที่ใช้ร่องน้ำนี้ทุกวันเปิดเผยว่า เรือบรรทุกแร่หลายพันตันได้เกิดอัปปางลงเมื่อช่วงปลายปี 2560 ช่วงมรสุม ส่วนแร่ที่บรรทุกมาบนเรือได้ถูกดูดออกไปหมดแล้ว จึงแต่ซากเรือน้ำหนักหลายร้อยตันถูกทิ้งเอาไว้ที่ร่องน้ำโดยไม่มีการกู้ซากเรือแต่อย่างใด
ด้านโต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดท่าสูง ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านเปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากและเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่ถูกทิ้งไว้ จึงขอให้หน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยหลังจากนี้จะหารือกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนภายใน 7 วัน หากไม่ชัดเจนมีทางเดียวคือการปิดร่องน้ำการเดินเรือทุกชนิด รวมทั้งทางออกของเรือบรรทุกแร่อีกหลายลำที่ต้องใช้เส้นทางนี้ออกสู่อ่าวไทย
ต่อมาได้มีการติดตามข้อมูลพบว่าเรือโชคอำนวยลำที่เกิดอับปางขวางร่องน้ำเดินเรือลำนี้ เป็นของนายอำนาจ คล้ำวิชัย นักธุรกิจเหมืองแร่รายใหญ่รายหนึ่งของภาคใต้ โดยสำนักงานเจ้าท่าได้แจ้งให้ดำเนินการกู้เรือลำนี้อย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช ได้มอบให้เจ้าพนักงานตรวจท่าปฎิบัติการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอำนาจ คล้ำวิชัย เจ้าของเรือโชคอำนวย ในความผิดตามมาตรา 279 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่า หรือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ และพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2556 พร้อมกันนั้นเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช ได้ทำบันทึกข้อความร้องขอการช่วยเหลือจากกรมเจ้าท่าจัดส่งกำลังคนและผู้เชี่ยวชาญเข้ากู้ซากเรือ โดยค่าใช้จ่ายในการกู้จะฟ้องร้องบังคับกับเจ้าของซากเรือต่อไป