เมื่อวันที่ (17 ต.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตเณรคำ อดีตประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยคุมตัวมาที่ศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาคดีกระทำอนาจาร และพรากผู้เยาว์เด็กหญิงวัย 13 ปี จากกรณีที่อดีตเณรคำ ได้พรากเด็กไปจากบิดา-มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เหตุเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี
ขณะเดียวกันในวันนี้ ทางผู้เสียหายพร้อมด้วยญาติ ก็ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาคดีเณรคำด้วยเช่นกัน โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม ปี 2543 ถึง กลางปี 2544 ตนเองถูกล่อลวงให้ไปอยู่กับเณรคำ และถูกกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน ซึ่งผลการตรวจดีเอ็นเอได้ยืนยันแล้วว่าเด็กที่เกิดขึ้นเป็นบุตรของอดีตเณรคำจริง
นอกจากนี้ผู้เสียหายบอกอีกว่า ขณะนี้บุตรคนดังกล่าวมีอายุ 16 ปีแล้ว ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาตนได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง ส่วนอดีตเณรคำเคยให้ลูกศิษย์นำเงินค่าเลี้ยงดูมาให้จำนวน 1 หมื่นบาท เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น หลังเป็นข่าวเมื่อปี 2556 ก็ไม่ได้ส่งเงินมาอีก วันนี้จึงเชื่อมั่นว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับตนเอง
จากการที่ผู้เสียหายยังได้ยื่นฟ้องเณรคำในคดีแพ่ง ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีษะเกษ เพื่อเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท โดยล่าสุดศาลสั่งชะลอพิจารณาไว้ก่อน เพราะจะต้องรอคำพิพากษาจากคดีหลักที่ศาลอาญาในวันนี้ สำหรับคดีดังกล่าวอดีตเณรคำ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่ได้กระทำผิด และเด็กที่เกิดมาก็ไม่ใช่บุตรของตนเอง แต่ว่าก่อนหน้านี้อดีตเณรคำ ได้ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 114 ปี ในคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน จากกรณีที่หลอกลวงนำเงินบริจาคนำไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยมีการซื้อรถหรูและเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งมีการระบุชื่ออดีตเณรคำเป็นเจ้าของ