วันนี้ (19 ต.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นการยอมรับว่ามีข้าราชการในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เรียกสินบนจากประชาชนจริง ซึ่ง พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.ให้ข้อมูลเพิ่มว่า เจ้าหน้าที่รายนี้อยู่ในกองคดี 1 เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ บรรจุเมื่อปี 2560 ส่วนประเด็นที่เจ้าหน้าที่รายนี้ เคยถูกศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับในคดีปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม เมื่อปี 2559 แต่ต่อมาถูกถอนหมายจับ เมื่อเดือนมีนาคม 2661 รักษาราชการแทนเลขาฯ ปป.งระบุว่า ทุกคนผ่านการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดหลังการบรรจุ ปปง. ทราบว่า เจ้าหน้าที่รายนี้มีหมายจับติดตัว แต่คดียังไม่ถึงที่สุด
ทั้งนี้ส่วนการใช้ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเอกสารในการเรียกรับสินบน ที่ปรากฏลายเซ็นนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 หรือมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งอาจต้องเชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ามาให้ข้อมูลกับ ปปง.
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 ปปง.ที่มาร่วมงานมอบเงินให้ผู้เสียหายจากแก๊งคอล เซ็นเตอร์ และแก๊งโรแมนซ์สแกม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ลายเซ็นที่พบไม่ใช่ของตัวเอง แม้จะมีความคล้ายกัน เอกสารบางอย่าง ไม่ใช่ของกองคดี 1 แต่เรื่องการตรวจสอบนักธุรกิจรถเช่า ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยืนยันเป็นเรื่องจริง แต่ยังไม่ได้อยู่ในสถานะผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการกองคดี 1 ยืนยันว่า เจ้าหน้า ปปง.ไม่สามารถสั่งยุติหรือยกเลิกคดีได้ เพราะปปง.มีมาตรฐานการตรวจสอบและทำคดีที่เป็นสากล และหากทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อดำเนินการกับนายอัจฉริยะที่ทำให้ตัวเองได้รับความเสียหาย
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมือง ยืนยัน ในฐานะผู้ช่วยโฆษก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เรียกเจ้าหน้าที่มาพูดคุยเรื่องคดี เพราะไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
โดยวันเดียวกันนายอัจฉริยะ ได้โพสต์ผ่านเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมว่าฟังการแถลงข่าวของ ปปง. แล้วเศร้า มีหมายจับ สามารถรับราชการได้ ประเทศไทยแบบนี้ ก็มีด้วย บอกมีมูล แต่ไม่เปิดรายชื่อ ใครจะกล้าเป็นพยานและมอบเอกสารให้ เมื่อความโปร่งใสไม่มี
