นายแพทย์สุรกิจ ยศพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย พร้อมด้วย นายแพทย์พิสิษฐ์ อินทรวงษ์โชติ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคายด้านการแพทย์ ได้แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว
นายแพทย์ สุรกิจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 61 ทางโรงพยาบาลเฝ้าไร่ จ.หนองคาย ได้นำผู้ป่วยเป็นคุณยายคนหนึ่ง อายุ 75 ปี ชาวตำบลบัวตูม อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ส่งมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลหนองคาย ด้วยอาการปอดอักเสบร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนคือเป็นภาวะต่อมหมวกไตบกพร่องจากการกินเสตียรอยด์มาตั้งแต่เป็นสาว การรักษานั้นได้มีการรักษาตามกระบวนการให้ยา มีการเจาะเลือดเพื่อส่งไปทดสอบในห้องปฏิบัติการหลายครั้ง จึงทำให้ต้องมีรอยแผล รอยเข็มจากการเจาะเลือดซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เนื่องจากผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ มีผิวหนังเปราะบางอยู่แล้ว ประกอบกับการใช้เสตียรอยด์มานาน เสี่ยงต่อการรับบาดเจ็บง่าย ทีมที่ให้การรักษาพบว่าผู้ป่วยมีแผลหรือรอยจ้ำที่แขนมาก่อน จึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการเจาะเลือดหรือกระทบกระเทือนบริเวณนั้นตามหลักทางการแพทย์
จนกระทั่งวันที่ 12 ตุลาคม 61 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลหนองคายก็ยังไม่พบบาดแผลใด ๆ เพิ่มเติมตามที่ญาติได้ถ่ายรูปลงในเฟซบุ๊ก จึงเชื่อว่าแผลที่เกิดน่าจะเกิดหลังจากผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจนมีการติดเชื้อ โดยแพทย์ได้นัดผู้ป่วยมาติดตามการรักษาอีกครั้งในวันที่ 22 ตุลาคม 61 แต่ผู้ป่วยไม่มาพบแพทย์ตามนัด และขณะนี้ได้จัดทีมของโรงพยาบาลลงไปสมทบกับ รพ.สต.บัวตูม เพื่อไปดูบาดแผลและทำความเข้าใจกับผู้ป่วย พบว่าแผลเริ่มหาย ตกสะเก็ดทั้งแขนซ้ายขวา แผลที่ถลอกตามขาหนีบ ตามต้นขา มีแผลกดทับเป็นหย่อม ๆ แต่ไม่รุนแรง แค่ถลอกและกำลังจะหาย ไม่มีอาการหนองเยิ้มแล้ว
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้