นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชี้แจงการดำเนินกิจกรรมให้แก่พรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ โดยย้ำว่า ช่วงนี้ คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 13 ยังมีผลบังคับใช้ ก่อนที่พรรคจะดำเนินกิจการใดๆจะต้องแจ้งกับ กกต. ก่อนทำกิจกรรม 5 วัน ทุกครั้ง เช่น การประชุมเลือกกรรมการบริหารพรรคจะต้องมาจากที่ประชุมใหญ่ จะต้องผ่านการอนุญาตจาก กกต.แล้ว เพราะหลายพรรคกรรมการบริหารลาออก หรือมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับพรรคให้เหมาะสมก่อนเลือกตั้ง
ส่วนการรับบริจาค คณะกรรมการการเลือกตั้ง ย้ำว่า มีกฎหมายกำหนดห้ามบริจาคเกิน 10 ล้านบาทต่อรายต่อปีชัดเจน ขณะนี้รับบริจาคได้เฉพาะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น และหากต้องการรับบริจาค จากบุคคลภายนอก สามารถใช้คำสั่งคสช.ที่ 53 ข้อ 4 ขออนุญาตได้ เช่น ขายสินค้าที่ระลึกระดมทุน ส่วนการระดมทุนในรูปแบบจัดทอล์คโชว์ ขายโต๊ะ ขายสินค้่ยังทำไม่ได้เพราะอาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยซึ่งจะขัดคำสั่งคสช.
สำหรับพรรคจัดตั้งใหม่อย่างพรรคพลังชาติไทย มีสมาชิกมาให้กำลังใจจำนวนมาก พลตรีทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรค ประกาศจุดยืนว่า มีอุดมการณ์ทำเพื่อชาติและประชาชน และยินดีจัดตั้งรัฐบาลกับทุกพรรค ยืนยัน พรรคพลังชาติไทย ไม่ใช่พรรคทางเลือก พรรคของทหาร ตามที่ถูกตั้งข้อสงสัย
โดยวันนี้มีพรรคสยามพัฒนา พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยธรรม พรรคเพื่อคนไทย พรรคพลังปวงชนไทย พรรคพลังรวมประชาชาติไทย และพรรคพลังชาติไทย เข้าร่วมรับฟังแบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่าย วันที่ 22 พฤศจิกายน กกต.จะนัดประชุมอีกครั้ง