ความต่างของ “แร็ป” Thailand 4.0 กับ ประเทศกูมี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ไปดูความต่างของ 2 เพลงแร็ป ที่ยอดวิวทะลุหลักล้านอย่างรวดเร็วระหว่าง แร็ป Thailand 4.0 กับ ประเทศกูมี ตามหลักการทำเพลงแร็ป รวมถึงผลโหวตจากแฟนเพจ PPTVHD36 ว่าเพลงไหนโดนใจที่สุดเพราะอะไร

หลังจากเพลง “แร็ป Thailand 4.0” ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ในยูทูบ แม้ว่าขณะนี้ยอดวิวทะลุหลักล้านไปแล้ว แต่ก็เกิดการตั้งคำถามจากชาวโซเชียลว่า “นี้ แร็ป จริงหรือ” ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี จึงสอบถามถึงศิลปะการทำเพลงที่โดนใจวัยรุ่นยุค 4.0 โดยเฉพาะการทำเพลงแร็ปกับ อนันต์ ลือประดิษฐ์ นักวิจารณ์ดนตรี ซึ่งเขาสะท้อนให้ฟังว่า เพลงแร็ป คือ สไตล์ของศิลปะการทำเพลง Street Music ตั้งแต่แร็ปเปอร์ในยุค 80 มีจังหวะเฉพาะตัว จุดเด่นคือ การแสดงออกทางความคิด มีความกดดัน ความทุกข์ สะท้อนปัญหาสังคม ภาษารุนแรง โดนใจ ไม่ประดิษฐ์ประดอย ไม่หรูหรา แม้ช่วงหลังๆ จะมีบ้างที่นำ แร็ป มาผสมกับป๊อบ อาร์แอนด์บี

ในส่วนของเพลง “แร็ป Thailand 4.0” ถ้าฟังดีดีรากของเพลงจะมีความเป็น แร็ป อยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับ “ประเทศกูมี” อาจจะต่างตรงที่ความดิบ ซึ่งในที่นี่หมายถึง ประเทศกูมี มีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ชัดเจนกว่า แต่ แร็ป Thailand 4.0 มีความสำเร็จรูปกว่า มีการนำเทคนิคอื่นๆ เข้ามาผสมผสาน เช่น ซาวด์ การผสมเสียง Sound Effect อาจจะดูกรุ๊งกริ๊ง ซึ่งถ้ามองกันในแง่มุมของความเป็นศิลปะ มันคนละอย่างกัน

“ประเทศกูมีจะดุดัน แร็ป Thailand 4.0 อาจจะดีไซด์ออกมาให้ดูหรู ” อนันต์ ลือประดิษฐ์ นักวิจารณ์ดนตรี กล่าว และถ้าเทียบกันสองเพลงนี้จะมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันด้วย เขายังบอกอีกว่า “เพลงเป็นหน้าที่ของศิลปิน ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล” จะสังเกตได้ว่าเพลงส่วนใหญ่ที่มาจากรัฐบาลเป็นเพลงในลักษณะของโฆษณาชวนเชื่อ กลิ่นอายของความเป็น Propaganda  หรือมีเป้าหมายของการผลิตเชิงอุดมการณ์เพลงเหล่านี้คนส่วนใหญ่ไม่เสพ “เพราะคนส่วนใหญ่นิยมเสพเพลงที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจที่เป็นธรรมชาติมากกว่าเพลงที่เขียนตามใบสั่ง” 

ซึ่งเข้าใจว่าการทำเพลงทั้ง 2 เพลงนี้ คนทำเพลงได้คิดแล้วในแง่ของงานฝีมือเชิงช่างว่า รูปแบบไหนที่จะสอดคล้องกับเนื้อหาที่ตัวเองจะบอกกล่าว เพราะถ้านำ เพลง แร็ป Thailand 4.0 ไปใส่จังหวะของเพลงประเทศกูมี ก็จะไม่เข้ากันด้วยประการทั้งปวง เพราะทั้ง 2 เพลงมีความต่างในตัวของมันในการเล่าเรื่องตามบทเพลง ขณะเดียวกันก็มีข้อสังเกตของการทำเพลงเช่นกันว่า

“ถ้าทำเพลงเพื่อเป็นเครื่องมือของการโฆษณาชวนเชื่อเพลงอาจไม่มีพลังมากพอ เพราะทุกคนรู้ว่ามันเป็นเพลงจากใบสั่ง แต่เพลงที่กลั่นมาจากหัวใจของศิลปินไม่ว่าจะถูกหรือผิดอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยจะจับใจคนได้มากกว่า” หลักของการฟังเพลง “ชอบก็ฟัง ไม่ชอบก็ไม่ต้องฟัง” ถ้ายึดหลักนี้ถือว่าจบเลยประเทศจะไม่วุ่นวาย “แต่ก็ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ให้คนฟังหรือประชาชนเป็นคนตัดสินจะดีที่สุด”

ขณะเดียวกัน  ทีมนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้เปิดโหวต ผ่านช่องทาง เฟซบุ๊ก PPTV HD 36 ภายใต้หัวข้อ "แฟนเพจพีพีทีวีชอบเพลงไหนมากกว่ากันระหว่างเพลง “แร็ปThailand 4.0” กับ “ประเทศกูมี” พบว่า 88% ชอบเพลงประเทศกูมี และ 12% ชอบเพลง แร็ป Thailand 4.0 โดยมีผู้กดถูกใจ 1,100 คน แชร์ 85 ครั้ง แสดงความคิดเห็น 175 ความเห็น ซึ่งแตกต่างกันไป เช่น

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ