เมื่อวันที่ (6 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด และปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ด ลงพื้นที่ในหมู่บ้านชาวเขา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 1 เดือน ถูกสุนัขจรจัดรุมกัดจนบาดเจ็บ เพื่อเลือดตรวจหาเชื้อพิษสุนัขบ้า พร้อมทั้งแยกสุนัขที่มีลักษณะดุร้ายออกจากฝูง แต่การจับสุนัขที่มีอยู่ 20-30 ตัวเป็นเรื่องยาก เพราะสุนัขทั้งหมดเป็นสุนัขจรจัดไม่มีเจ้าของ จึงมีนิสัยหวาดระแวง ไม่ยอมเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีนำยาซึมและยาสลบ ผสมในอาหารล่อให้สุนัขมากิน เมื่อยาออกฤทธิ์เจ้าหน้าที่จึงจับเจาะเลือด ทำหมัน และนำตัวไปกักดูอาการประมาณ 7-10 วัน ก่อนจะส่งสุนัขเหล่านี้ไปยังศูนย์พักพิงที่ อ.แม่แตง และอ.สันป่าตองต่อไป
นายอาทิตย์ ยอดคำลือ ปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ด บอกว่า สุนัขบริเวณนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่อาศัยอยู่รอบบ้านของเด็กหญิง และกลุ่มบริเวณฟาร์มหมู รวมประมาณ 30 ตัว วันนี้ดำเนินการไปประมาณ 20 ตัว โดยเป้าหมายหลักคือ สุนัข 3 ตัว ที่รุมกัดเด็กที่จะต้องจับมาเพื่อเจาะเลือดนำส่งตรวจโรคพิษสุนัขบ้าและโรคติดเชื้ออื่น โดยจะส่งเลือดไปตรวจที่ส่งเลือดตรวจ ศูนย์ชันสูตรโรคสัตว์ภาคเหนือจังหวัดลำปาง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คาดว่าภายใน 3-7 วันจะทราบผล
สิ่งที่น่ากังวลหลังจากนี้ ทางปศุสัตว์ระบุว่า ยังมีสุนัขอีกจำนวนหนึ่งที่อาจจะย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ แทนกลุ่มเดิมที่ถูกนำออกไป เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจัดการกับสุนัขจรจรในพื้นที่นี้ต่อเนื่องไปอีก 10 วัน สำหรับอาการของเด็กหญิงที่ถูกสุนัขกัด ขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด อาการดีขึ้น เริ่มเล่นและพูดคุยได้ แต่ยังมีอาการผวา ซึ่งแม่ยังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด