เมื่อวันที่ (6 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุผลที่นายภาวิช ทองโรจน์ อุปนายกสมาคมสภามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ชี้แจง ว่า ไม่เห็นด้วยกับประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่กำหนดให้สภามหาวิทยาลัย ต้องชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วย โดยให้เหตุผลว่า กรรมการสภามหาวิทยาลัย ไม่ได้อยู่ในวิสัยที่จะต้องถูกตรวจสอบทุจริต เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษา และไม่ได้อนุมัติงบประมาณ
นายภาวิช ย้ำว่า การบังคับให้สภามหาวิทยาลัย ต้องการบังคับให้ชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กำลังจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสถานศึกษา เพราะมีกรรมการสภามหาวิทยาลัยบางส่วนที่ไม่เห็น ขอลาออก โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนที่ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้ง และไม่อยากเสี่ยงกับความผิด หากชี้แจงไม่ครบ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้การบริหารงานในภาพรวมของสถานศึกษามีปัญหา และทำงานต่อไปไม่ได้
ด้านนายนายวีรชัย พุทธวงศ์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หรือ CHES มองว่า กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน เป็นกลุ่มคนที่กังวลเรื่องการถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เป็นไปได้ว่าจะเป็นกลุ่มทีา่เสียผลประโยชน์ ย้ำว่า สภาฯ- กรรมการสภาฯ ไม่ควรกังวลกับการต้องตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะหากเป็นฝ่ายที่ต้องตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารสถานศึกษา ก็ควรพร้อมที่จะถูกตรวจสอบด้วย
นายวีระชัย ยังตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มที่ออกมาคัดค้าน อาจเป็นกลุ่มที่เป็นฐานเสียงอำนาจให้กับอธิการบดี หรือเรียกว่า สภาเกาหลัง ซึ่งการตรวจสอบ ของ ป.ป. ช. เป็นสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่สถาบันการศึกษาจะต้องถูกตรวจสอบด้วย เพราะที่ผ่านมาสถาบันการศึกษาเป็นองค์กรที่ถูกมองข้ามมาตลอด ทั้งที่รายได้มากว่าองค์กรอิสระหลายแห่ง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกับ ป.ป.ช. เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการออกหลักเกณฑ์การตรวจสอบบัญชีหนี้สินผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการสภามหาวิทยาลัย เพราะหากมีการลาออกก็จะทำให้องค์กรทำงานไม่ได้ ในวันพรุ่งนี้ ตัวแทนจากทั้งฝ่ฝ่ายที่เห็นด้วย จะเข้าไปยื่นหนังสือที่ให้ ป.ป.ช. ให้ประกาศฉบับนี้ ครอบคลุมถึงคณะบดีให้คณบดีต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯด้วย ฉขณะที่สมาคมสภามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย จะยื่นหนังสือให้ทบทวนประกาศฉบับนี้