เจ้าหน้าที่หน่วยงานจากกระทรวงยุติธรรม จ.อุตรดิตถ์ ร่วมกับทหารค่าย มทบ.35 เดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กับนางนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ทำอาหารพร้อมน้ำดื่ม ส่งโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ด้วยการทำสัญญาผูกมัดเป็นเวลา 5 ปี ให้ผลิตข้าวกล่องประเภทข้าวมันไก่ ข้าวผัดกะเพราหมู ลูกชิ้นผัดเผ็ด ทุกวัน วันละ 10,000 กล่อง และน้ำดื่มประเภท เก๊กฮวย โอเลี้ยง กระเจี๊ยบ เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ อีกวันละ 10,000 ขวด รวมถึงไข่ต้มส่งวันจันทร์-ศุกร์ วันละ 30,000 ฟอง ระหว่างทำสัญญาถูกเรียกเงินล่วงหน้าเพื่อจ่ายค่าสัมปทาน และขวดเปล่าสำหรับใส่น้ำดื่มเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 100,000 บาท
นางธนิสร กล่าวว่า ที่หลงเชื่อเพราะเห็นว่าผู้มาติดต่อเป็นคนรู้จักกันและมีพื้นเพอยู่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จึงทำสัญญาสัมปทานกับบริษัทดังกล่าวไป และให้พี่สาว-น้องสาวมาร่วมลงทุนซื้อข้าวของเครื่องใช้และเครื่องครัว พร้อมเรียกชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงและรู้จักกันจำนวนกว่า 60 คน มาเป็นแรงงานเพื่อผลิตข้าวกล่องและน้ำดื่ม ทำกันหามรุ่งหามค่ำ เหน็ดเหนื่อยกันแทบตาย โดยลงทุนไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท หลังจากทำสัญญาเรียบร้อยแล้วและทำการผลิตข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม ปรากฏว่าผู้ทำสัญญาอ้างสารพัดอย่าง ว่าทำไม่ถูกต้องบ้าง ทำไม่ครบบ้าง ทำไม่ทันเวลาบ้าง
เมื่อผู้ว่าจ้างไม่ยอมรับของ ทำให้ข้าวกล่องและน้ำดื่มบูดได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังหมดเงินไปกับการซื้อข้าวของเครื่องใช้ทั้งเครื่องปรุงและภาชนะ แก๊สหุงต้ม ตลอดจนค่าแรงที่ยังไม่ได้จ่ายให้ผู้มาทำงานรวมกว่า 1 ล้านบาท ต้องกู้หนี้ยืมสินและนำรถยนต์ไปจำนำกับไฟแนนซ์ ถึงกับหมดเนื้อหมดตัว
นางธนิสร เผยอีกว่า หลังเกิดเหตุมีน้องที่รู้จักกันได้เอาเรื่องนี้ไปโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเป็นอุทาหรณ์จนชาวเน็ตแชร์ออกไปมากมาย ล่าสุด มี น.ส.นภัสวรรณ ยิ้มเจริญ ชาว จ.อุตรดิตถ์ มาให้ข้อมูลกับเธอว่า นายอัครเดช ยิ้มเจริญ ซึ่งเป็นพ่อของเธอก็เคยถูกหลอกให้ว่าจ้างทำข้าวกล่องเช่นกัน โดยเป็นการรับสัมปทานจากบริษัท เดียวกัน ให้ทำอาหารมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน มื้อละ 1 หมื่นกล่อง คิดค่าสัมปทาน 4 แสนบาท ครอบครัวจึงหลงเชื่อทำสัญญาและลงทุนไปเกือบ 2 ล้านบาท พอทำเสร็จก็อ้างว่าไม่ได้มาตรฐานและสั่งให้หยุดทำพร้อมขู่ว่านิติศาสตร์มารู้เรื่องกฏหมายเป็นอย่างดี เหตุการณ์นี้ทำให้พ่อของตนเอง เครียดจนเส้นเลือดในสมองอุดตัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560
ล่าสุด ผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสอน สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 299,000 บาท โดยให้ชดใช้ภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน แต่หากไม่จ่ายก็จะคิดค่าเสียหายเพิ่มเป็น 799,000 บาท ซึ่งเป็นค่าสัญญา ค่าอุปกรณ์และค่าจ้างแรงงาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และอยู่ระหว่างสอบสวนพยานแวดล้อม รวบรวมหลักฐาน พร้อมออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน