น.ส.กัญจ์หทัย สุขใส (ป้าง) ในฐานะผู้ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม และนางธนิตา จันทร์อิ่ม (อิ๋ว) ในฐานะพยานร่วมเซ็นรับรองเอกสารในหนังสือสัญญาสัมปทานอาหารและเครื่องดื่ม ว่าจ้างแม่ค้าทำข้าวหมื่นกล่อง น้ำหมื่นขวด เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจพญาแมน โดยใช้เสื้อคลุมปิดใบหน้า ไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงเพื่อเอาทรัพย์สินผู้อื่น ทั้งคู่ได้ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นการชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วไม่ให้ประกันตัว
พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ โดยนางสาวป้างเป็นพี่สาวของสามี อิ๋ว เป็นน้องสะใภ้ จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบ อิ๋ว มีคดีทั้งหมด 10 คดี ทั้งยักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสาร ฉ้อโกงทรัพย์ ครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย ตั้งแต่ปี 2546-2559 สำหรับคดียาเสพติดศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสินจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท ซึ่งในวันที่ 12 พ.ย.2561 จะต้องไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนกระแสข่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นญาติของผู้ต้องหา เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี และระบุว่า มีการสั่งทำข้าวกล่องเลี้ยงนักพนันในบ่อน พื้นที่ต.พญาแมนนั้น ทั้ง 2 ประเด็นนี้จริงหรือไม่ พล.ต.ต.พยูห์ ระบุว่าขอตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละอียดก่อน
คดีนี้เบื้องต้นพบผู้ต้องหามี 2 คน มีพฤติกรรมหลอกลวเหยื่อ เริ่มจากไปจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นจะนำชื่อบริษัทไป หลอกลวงเหยื่อ โดยใช้วิธีการเซ็นสัญญาว่าจ้างให้ทำข้าวกล่อง ไข่เค็ม น้ำเก็กฮวย โอเลี้ยง กระเจี๊ยบ น้ำผลไม้ต่างๆ แล้วแต่เมนูที่กำหนดขึ้น จนเหยื่อหลงเชื่อจัดทำให้ สิ่งที่ผู้ต้องหาได้ผลประโยชน์มาจากไหน คือการ เก็บเงินค่าทำสัญญาว่าจ้างล่วงหน้า และเก็บเงินค่าผิดสัญญา โดยอ้างว่าผู้ถูกว่าจ้างทำไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ครบจำนวน
ส่วนผู้เสียหายจากมี 1 คน คือนางธนิสร กุยแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย ล่าสุดพบมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 8 คน
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า เป็นผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจะถูกหลอกให้จ่ายเงินค่าสัมปทานก่อนให้ทำสัญญาเมื่อผู้เสียหายทำข้าวกล่องเสร็จ ก็จะอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานหรือส่งข้าวกล่องและน้ำไม่ทันตามกำหนดยึดเงินค่าสัมปทานและเรียกค่าปรับเกินความเป็นจริงหลายแสนบาท
ก่อนหน้านี้พบว่ามีผู้เสียหายบางรายเดินทางไปแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ อ้างว่าเป็นคดีแพ่งให้คู่กรณีไปตกลงกันเอง ซึ่งผู้เสียหายรายนี้สูญเสียเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ทำให้คนในครอบครัวเกิดความเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ในสัปดาห์หน้านายอัจฉริยะจะพาผู้เสียหายรายนี้ ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพราะไม่มั่นใจการทำหน้าที่ของตำรวจ สภ.พญาแมน และระบุว่าเรื่องนี้มีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องได้ส่วนแบ่งจากเงินค่าปรับซึ่งทำเป็นขบวนการ
ด้านนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นในกรณีหลอกให้ทำข้าวกล่อง ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน น่าจะมีผู้รู้กฎหมายค่อยแนะนำอยู่เบื้องหลัง เพราะมีการใช้สัญญาแบบสำเร็จรูป และลงรายละเอียดเงินค่าปรับหากผิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่ง ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอาญามาตรา 341 หรือไม่ จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ต้องหา หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์จากผู้ถูกหลอก
