วันนี้ (9 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีผู้ให้ความเห็นจำนวนมากในหลากหลายมิติ ธปท. สรุปหลักเกณฑ์ออกมาว่า การกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ หรือ อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ให้สะท้อนความเสี่ยงได้ดีขึ้น สำหรับการผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป และที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
โดยเกณฑ์สำคัญเกณฑ์แรกคือ จำนวนที่อยู่อาศัยที่กู้สินเชื่อ หากผ่อนบ้านหรือคอนโดหลังแรกอยู่แล้ว และซื้อบ้านหรือคอนโดหลังที่ 2 จะต้องวางเงินดาวน์ 10 เปอร์เซ็นต์ กรณีที่ผ่อนหลังแรกมาเกิน 3 ปี แต่ถ้ายังผ่อนหลังแรกไม่ถึง 3 ปี ต้องวางเงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นบ้านหรือคอนโดหลังที่ 3 ต้องวางเงินดาวน์ 30 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้เกณฑ์ที่ 2 คือ มูลค่าบ้าน หากผ่อนบ้านหรือคอนโดราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป แม้จะเป็นหลังแรก ก็ต้องวางเงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับหลังที่ 2 ดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบ้านหรือคอนโดหลังที่ 3 ที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท จะต้องวางเงินดาวน์ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยการนับจำนวนบ้านว่ามีกี่หลัง นับเฉพาะหลังที่ยังผ่อนชำระไม่หมดเท่านั้น
นอกจากนี้ วงเงินกู้ตามหลักเกณฑ์ใหม่ จะนับรวมสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อ Top-up) ทุกประเภท ยกเว้นสินเชื่อที่ใช้ชำระเบี้ยประกันชีวิตผู้กู้และประกันวินาศภัย และสินเชื่อที่ให้กับธุรกิจ SMEs มีผลบังคับใช้สำหรับการทำสัญญากู้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป ยกเว้นผู้ที่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย หรือผ่อนดาวน์ก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จะเห็นได้ว่าหลักเกณฑ์ใหม่นี้เน้นป้องกันความเสี่ยงสำหรับคนที่ซื้อบ้านหลายหลังพร้อมกันและราคาเกิน 10 ล้านบาท นั่นหมายความว่าคนที่ซื้อบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท แม้จะซื้อหลัง 1 เมษายน 2562 ก็ไม่มีผลกระทบ เช่นเดียวกับคนที่กู้เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินตัวเอง และคนที่รีไฟแนนซ์บ้านหลังแรกด้วย
