ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กวาดล้างผู้ต้องหาคดีคอลเซ็นเตอร์ และโรแมนซ์สแกม หรือ แสร้งรักออนไลน์ พร้อมกับคืนเงินให้กับผู้เสียหายกว่า 4 แสนบาท
การตรวจจับครั้งนี้ สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และโรแมนซ์สแกม พร้อมทั้งอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโอนไปยังบัญชีของคนร้ายแยกเป็น ผู้เสียหายจากคดีคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่สภ.บางปู ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ จำนวน 400,165 บาท แต่สามารถอายัดเงินไว้ได้เพียง 190,000 บาท
ส่วนผู้เสียหายอีกคนเป็นคดีแก๊งโรแมนซ์สแกม ซึ่งเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย 256,000 บาท ซึ่งตำรวจสามารถอายัดเงินไว้ได้เต็มจำนวน รวมเป็นเงินจำนวน 446,000 บาท
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน บอกว่าขณะนี้ สำนักงาน ปปง. สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันทำงานอย่างเข้มข้น แต่พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพพยายามหลบหนี โดยใช้การหลอกลวงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้รับฟังการประชาสัมพันธ์ จากหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ทั้งนี้กรณีพบว่าถูกหลอกลวง ให้รีบโทรแจ้งที่สายด่วนของ สำนักงานปปง. เบอร์ 1710 ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ด้าน พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าช่วงระหว่างวันที่10-16 พฤศจิกายน 2561 สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีโรแมนซ์สแกม ได้ 20 คน คดีคอลเซ็นเตอร์ 4 คน จากหมายจับทั้งหมด 29 คน โดยพบผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นคนไทย