หนุ่มขอนแก่น ร้องโอนลอยขายรถ แต่ถูกจับข้อหากรรโชกทรัพย์จำคุก 12 ปี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หนุ่มช่างไฟฟ้าใน จ.ขอนแก่น ร้องขอความเป็นธรรม อ้างตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ทั้งที่ขายรถและโอนลอยไปแล้วกว่า 2 ปี แต่คนซื้อกลับนำไปก่อเหตุ เตรียมยื่นหลักฐานใหม่ให้ศาลพิจารณา

วันนี้ (21 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารคำพิพากษาศาลอาญา หลักฐานการซื้อขายรถ เอกสารการโอนรถ และเอกสารการลงลายมือชื่อการปฏิบัติราชการ เพื่อเข้ารับคำปรึกษากับนิติกรประจำสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ที่นายจีรศักดิ์ หาวิเชียร ชาวตำบลท่าพระ อำเถอเมืองขอนแก่น อาชีพนายช่างไฟฟ้าชำนาญการประจำเทศบาลตำบลโนนทอง อำเภอหนองเรือ นำมาร้องเรียน และขอคำปรึกษากับสำนักงานยุติธรรมจังหวัด หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ในพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งศาลชั้นต้นของศาลอาญาตัดสินจำคุก 12 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะขอประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 7 ส.ค.

นายจีรศักดิ์ เล่าว่า เมื่อปี 2557 ได้ขายรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฏว-8160 กทม. ให้กับเต็นท์รถมือสองใน จังหวัดปราจีนบุรี โดยเจ้าของร้านเดินทางมาซื้อรถถึงที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทำสัญญาซื้อ-ขายถูกต้อง และมอบโอนอำนาจและกรรมสิทธิ์ หรือการโอนลอย ตามระเบียบของกรมขนส่งทางบก จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ซื้ออีกเลย จนกระทั่งวันที่ 21 ธ.ค. 2559 ถูกตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามและตำรวจชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นำหมายจับข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยระบุว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 3 และ 6 มี.ค. 2557 โดยถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่กองปราบปราม ซึ่งได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งมีเอกสารสัญญาซื้อขายรถ และเอกสารของทางราชการทั้งใบลงเวลาทำงาน หรือพยานหลักฐานของหัวหน้างานว่าในวันที่ 3 และ 6 มี.ค. 2557 ปฏิบัติงานที่เทศบาลตำบลโนนทองตามปกติ ที่สำคัญคือรถยนต์คันดังกล่าวได้ขายไปแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.  ซึ่งเมื่อขึ้นสู่ชั้นศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก 12 ปี ร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นในคดีเดียวกัน และยังให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทย์อีกคนละ 150,000 บาท  

ทั้งนี้หลังต้องโทษอยู่ในเรือนจำ 2 เดือน นายจีรศักดิ์ ได้ขอประกันตัวระหว่างยื่นอุทธรณ์ เมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา จึงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์คันที่คนร้ายนำไปก่อเหตุ สำหรับกรณีนี้การตรวจสอบพบว่า ในช่วงที่รถถูกนำไปใช้ก่อเหตุ ยังเป็นชื่อของนายจีรศักดิ์ เจ้าของเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้น อีก 1 เดือน รถมีการโอนชื่อไปเป็นของอีกคนหนึ่งแทน

ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ มองว่า กรณีของ นายจีรศักดิ์ นั้นต้องหาหลักฐานเช่นกล้องวงจรปิดมายืนยันว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในวันเกิดเหตุให้ได้ เพราะมีผู้เสียหาย 3 คน ยืนยันตรงกันว่าเป็นคนกรรโชกทรัพย์ในเวลากลางวัน ส่วนที่อ้างว่ามีหลักฐานการเซ็นชื่อเข้าทำงานในวันเกิดเหตุเป็นหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ส่วนใหญ่ศาลจะลงความเห็นไม่เชื่อหากนำมาต่อสู้คดี

ขณะที่ล่าสุด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบเอกสารหลักฐาน เพื่อให้ทนายความแถลงต่อศาล แต่ด้วยระยะเวลากระชั้นชิดจึงได้มอบหมายให้ทนายความขอขยายเวลาการส่งเอกสารในชั้นศาลอุทธรณ์ออกไปตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ