เตือน! "โรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ" ภัยจากอากาศเย็นที่ต้องระวัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อีกหนึ่งโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูหนาว สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง เด็ก และ ผู้ใหญ่ นั่นก็คือ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ อาการที่สังเกตุได้ง่ายคือ ผิวหนังมักมีลักษณะแห้ง ขึ้นผื่น มีอาการคันมาก

ภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่ใช่โรคติดต่อ พบได้ทุกฤดู แต่ในช่วงฤดูหนาว จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น เนื่องจากอากาศหนาวผิวจะยิ่งแห้ง เพราะความชื้นในอากาศต่ำ อากาศแห้ง เย็น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคันผิวหนังรุนแรงมากขึ้น ซึ่งการเกาอาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อตามมา

ผู้ป่วยที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักจะมีลักษณะผื่นเป็นผื่นแดง แห้งลอก มีอาการคันมาก หรือ มีตุ่มแดงนูน ตุ่มน้ำใส ซึ่งเมื่อแตกออกเป็นน้ำเหลืองไหลเยิ้มแล้วกลายเป็นสะเก็ดแข็ง ถ้าผื่นนี้เป็นมานานเข้าสู่ระยะเรื้อรัง จะพบเป็นแผ่นหนาแข็ง มีขุย มักพบว่า เป็นที่บริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา และซอกคอ

ในส่วนของการรักษานั้น สำหรับเด็กทารก ให้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน โดยมีการวิจัยระบุว่า การให้นมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนแรกของชีวิตลูก ช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ โดยเฉพาะในรายที่สงสัยว่าแพ้โปรตีนนมวัว เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างสารภูมิคุ้มกันหลาย ๆ ชนิดให้ทารก

หลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ ที่ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น เช่นไม่อยู่ในห้องปรับอากาศที่เย็นจัด ไม่อาบน้ำที่มีอุณหภูมิเย็น หรือ ร้อนจัด และควรหลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เหงื่อออกมาก

ขณะที่ผู้ใหญ่ แนะนำให้รับประทานยาต้านฮิสตามีน ลดอาการคัดเมื่อมีอาการคันควรรับประทานยาต้านฮิสตามีน วันละ 2-3 ครั้งติดต่อ เว้น 5-7 วัน เพื่อลดอาการคัน เพราะอาการคัดทำให้ผู้ป่วยต้องแกะเกาผิวหนัง ผื่นผิวหนังที่อักเสบจะกำเริบขึ้นได้ ยากลุ่มนี้ได้แก่คลอเฟนนิลามีน สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ข้อที่ควรระวังคือ ยานี้มีผลข้างเคียงคือ อาการง่วงนอน หรือ จะทานยาทากลุ่มสเตรียรอยด์มีฤทธิ์ลดการอักเสบของผื่นผิวหนัง แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะโรคกลุ่มนี้ต้องใช้ยานาน อาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ถ้าใช้ยาไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ หากเกิดกรณีที่มีตุ่มหนองเกิดแทรกซ้อนบนตุ่ม หรือ ผื่นแดง แสดงว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ควรปรึกษาแพทย์เพราะผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

อย่างไรก็ตาม โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ไม่ได้เกิดจากการแพ้อาหาร หรือ สารเคมีอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เกิดจากผิวหนังของผู้ป่วยไวต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ทั้งสภาพร้อน เย็น แห้ง ชื้น เชื้อโรค และ สารเคมีที่ระคายผิวหนัง ดังนั้น อาจพบบ่อยในเด็ก เพราะยังมีภูมิต้านทานน้อย ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้ครีมทาผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอด เพื่อป้องกันการเกิดผื่นมากขึ้น  

ขอขอบคุณ ข้อมูลดีดี จาก โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล โรงพยาบาลในเครือ BDMS โรงพยาบาลชั้นนำในประเทศ  “เรื่องสุขภาพ เราเชี่ยวชาญ”

ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ