ความหวานเริ่มต้นขึ้นพร้อมชั้นขนมที่ถูกนำมาวางตรงหน้ากับกาแฟ Nespresso หรือชาร้อนๆ จาก Laduree แต่ถ้าใครอยากลองสปาร์คกลิ้งไวน์ Bellavista Alma Cuvee Brut NV และ น้ำแร่ S.Pellegrino & Acqua Panna Mineral Waters ก็ไม่ว่ากัน ก่อนที่เสียงของเชฟฟาบริซิโอ จะดังขึ้นด้วยการแนะนำลำดับการชิมขนมเริ่มต้น Afternoon tea อย่างเป็นทางการ
เริ่มต้นที่ชั้นบนสุดอย่าง “Crispy Tiramisu” ที่หน้าตาอาจจะดูต่างจากทีรามิสุที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งเชฟได้อัดแน่นเทคนิคชั้นสูงเอาไว้ใน Ball ลูกนี้ เพราะคำแรกที่ได้สัมผัสคือกลิ่นของกาแฟตามด้วยความนุ่มหอมชีสของมาสคาโปนที่สอดไส้อยู่ด้านใน ผสมกับเทกเจอร์กรุบกรอบซึ่งเป็นไปตามสูตรต้นตำรับอย่างแท้จริง
ตามด้วยชั้นที่สอง ชั้นนี้เต็มไปด้วยความน่ารัก ขี้เล่น ตามลักษณะของเชฟที่มีความเป็นกันเอง เริ่มเปิดวาร์ปที่ “วาฟเฟิลรูปถั่ว(Peanut)” สอดไส้นูเทลล่าได้รสชาติของความเป็นถั่วจากนูเทลล่าที่เข้มข้นมาก เพราะเชฟบอกว่าไม่ได้ผสมครีมหรือนมใดๆ ซึ่งชิ้นนี้ถือเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้
ในชั้นเดียวกันยังมี “Hazelnut Biscotto” ดึงดูดสายตาด้วยความเป็นเหรียญทองด้านบนพิมพ์ลายสวยงามวางบนบิสกิตจนต้องหยิบมาชิมซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะสิ่งที่สัมผัสคือความหอมของถั่วฮาเซลนัทที่เมื่อจิบชาร้อนตามแล้วต้องบอกว่า “Fantastico!”หรือ ยอดเยี่ยมมาก ในภาษาอิตาลี
ไม่รอช้าเพราะพระเอกกำลังรอเราอยู่ เลยจัดการกับชั้นล่างสุดของ Afternoon tea set ชั้นที่เหมือนจะเพิ่มความสดชื่นและตัดความเลี่ยนทั้งหมด จากความหอมเลมอนของ Lemon Tarte ที่ซ่อนอยู่ในครีมฟูนุ่มและตัว Tarte ที่กรุบกรอบ ก่อนที่จะปิดท้ายความเปรี้ยว จาก Raspberry Composition ซึ่งในหนึ่งชิ้นจะได้สัมผัสทั้ง 4 อย่าง คือ ความกรุบของฐานบิสกิต ความนุ่มของครีม ความเปรี้ยวของเยลลี่ และราสป์เบอร์รี่สดด้านบน
มาถึงความ “ฟินาเล่” พระเอกของมื้อนี้ด้วยการสาธิตเทคนิคการทำ Chocolate Praline จากเชฟฟาบริซิโอ ที่นำช็อกโกแลตชั้นดีจากอิตาลีมาถึงสองอย่างจนออกมาเป็น “Bon Bon” รสราสเบอร์รี่สีแดงสด ด้วยการนำมาละลายให้เหลว ใส่พิมพ์ด้วยเทคนิคพิเศษที่รวมเอารสชาติทั้ง “ความเปรี้ยว ความหวาน ความนุ่ม ความหอม” เป็นช็อกโกแลต 1 คำที่ยากจะลืม
นิวมีเดีย พีพีทีวี ถามเชฟว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณสร้างสรรค์ขนมหวานครั้งนี้ให้แฟนๆชาวไทยคืออะไร เขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า "เขาจะคิดถึงความสุขของลูกค้าที่จะได้มาสัมผัสรสชาติก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยๆ สร้างสรรค์เมนูความอร่อยจากวัตถุดิบชั้นดีและเทคนิคขั้นสูงออกมา"
สำหรับ “เชฟ ฟาบริซิโอ ฟิโอรานี (Chef Fabrizio Fiorani)” เป็นเชฟชาวอิตาลีโดยแท้เพราะเกิดที่กรุงโรม ฝึกฝนร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลินสตาร์ ก่อนที่จะเข้ารับแต่งตั้งเป็นซูเชฟหรือรองหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ด้านขนมหวานประจำร้าน Bulgari Tokyo-Osaka ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่กรุงโตเกียว และเมืองโอซาก้า แต่วันนี้เขาพร้อมต้อนรับอยู่แล้วที่ Laduree Salon de the' สยามพารากอน ชั้น M ภายใต้กิจกรรม “Siam Paragon World of Taste Gala”