ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90วันก่อนวันเลือกตั้ง จึงจะมีสิทธิ์ลงแข่งขันในสนามการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงได้ นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่นักการเมืองหน้าเก่าสลับสับเปลี่ยนย้ายสังกัดจนกลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา เพราะหากย้ายพรรคหลังจากนี้ พวกเขาจะขาดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง
พรรคน้องใหม่ที่ใช้ชื่อเดียวกับนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ถูกจับตามองตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะ มีอดีตส.ส.บิ๊กเนม จากหลายพรรคการเมืองตบเท้าเข้าสมัครเป็นสมาชิก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ สุชาติ ตันเจริญ นำทีมกลุ่มบ้านริมน้ำ เข้ามาเปิดตัว ทั้งที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกันมาตลอด
ถัดมาอีกหนึ่งวัน เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ที่ถูกตัดสินจำคุก 42 ปี ในคดีขายข้าวจีทูจี ในโครงการรับจำนำข้าว ลาออกจากพรรคเพื่อไทย มาเปิดข้ามฟากที่พลังประชารัฐเช่นกัน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ามีคดีและอาการป่วยของพ่อ เป็นข้อต่อรอง เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยไปเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยมาแล้ว แต่นายเดชนัฐวิทย์ ให้สัมภาษณ์หนักแน่นว่า เหตุที่ย้ายพรรคแบบพลิกขั้วเช่นนี้ เป็นเพราะ พ่อ ถูกทอดทิ้ง .พร้อมยืนยันว่า นายบุญทรง ให้คุยกับ 2 ประสานจากกลุ่มสามมิตร สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และแน่นอนเขาจะลงสนาม สมัคร ส.ส.ที่เชียงใหม่ เขตเดิมของผู้เป็นพ่อ
วันเดียวกัน กลุ่มอดีต ส.ส.กำแพงเพชร ยกชุดจากพรรคเพื่อไทย ที่ต่างก็รู้กันว่า มีนายวราเทพ รัตนากร มือขวา นางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์ แห่งค่ายวังบัวบาน เป็นหัวหน้าทีม ก็ย้ายข้ามห้วยมาสู่พลังประชารัฐ แม้ว่านายวราเทพ จะไม่ได้มาด้วย แต่ก็เป็นเพราะเขายังอยู่ในช่วงที่ลงสนามการเมืองไม่ได้
เป็นที่เข้าใจกันดีว่า “วังบัวบาน” คือ ฐานใหญ่ทางภาคเหนือของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร แม่ทัพใหญ่ ก็คือ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งทั้งนายบุญทรง และนายวราเทพ ล้วนเป็นขุนพลระดับแม่ทัพเช่นเดียวกัน การย้ายมาพลังประชารัฐ ที่เหมือนถูกตีเข้าไปใจกลางเมืองเชียงใหม่ บ้านเกิดอดีตนายกฯทักษิณ – ยิ่งลักษณ์ จึงมีข่าวคราวเบื้องหลังตามมามากมาย
หากเปรียบการย้ายพรรคของบรรดานักการเมือง เป็นสนามรบ พลังประชารัฐ ยึดครองหลายจังหวัดไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่การเลือกตั้งจะยังไม่เริ่มต้นขึ้น
ทั้ง สุโขทัย ภายใต้การนำของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ส่วนชัยนาท สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ อนุชา นาคาศัย ตระกูลเร่งสมบูรณ์สุข แห่ง เมืองเลย สุชาติ ตันเจริญ ฉะเชิงเทรา ตระกูลอัศวเหม แห่งเมืองปากน้ำ สมุทรปราการ กลุ่มอดีตส.ส.กำแพงเพชร ที่เคยอยู่ใต้เงาวังบัวบาน และกลุ่มอดีตส.ส.เชียงราย นำโดย รัตนา จงสุทธนามณี นายอำนายคลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี จุรีพร สินธุไพร น้องสาวนายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด ดีกรีแกนนำ นปช. และล่าสุด มานิตย์ นพอมรบดี จากราชบุรี ทิ้งภูมิใจไทย มาพลังประชารัฐอีกคน
ยังไม่นับรวมคนที่มารออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง หลานนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำคนสำคัญ จังหวัดสระแก้ว พรรคเพื่อไทย ตระกูลคุณปลื้ม ที่ยึดพื้นที่ชลบุรีมายาวนาน ตระกูลรัตนเศรษฐ เมืองโคราช บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.โคราช ดีกรีรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รวมถึง แรมโบ้ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำ นปช.ที่เปิดตัวมานานแล้ว
พลังประชารัฐ ไม่ได้ดึงเฉพาะคนของเพื่อไทย แต่พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน แม้จะไม่ได้ถูกดูดอดีตส.ส.ไปทั้งจังหวัด แต่ทั้งพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ทีมอดีต ส.ส.จันทบุรี รวมถึง ลูกชายนายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี้ยะ คนดังแห่งเมืองกาญจนบุรี ที่ถูกดึงมาร่วมงานด้วย สะท้อนภาพว่าพลังประชารัฐ รวบรวมนักการเมืองมีชื่อจากต่างพรรคการเมืองมารวมไว้ได้อย่างน่าจับตามอง
คำถามสำคัญ คือ พลังประชารัฐ จะทำอย่างไรให้การเมืองไม่ซ้ำรอยเดิม เพราะเป็นพรรคที่ชูธงปฏิรูปการเมือง ใช้ชื่อเดียวกับนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ผู้เล่นที่รวบรวมไว้ เป็นคนหน้าเดิมที่เคยถูกโจมตีจากซีกรัฐบาลปัจจุบันว่ามีส่วนทำให้ประเทศเดินมาถึงทางตัน
ก่อนหน้านี้พลังประชารัฐ ถูกมองว่า อาจต้องพึ่งพาเสียงจากส.ว.เป็นหลัก เพื่อโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย แต่แหล่งข่าวในพรรคอ้างว่า ผู้เล่นที่วางตัวไว้ขณะนี้ เมื่อนำไปรวมกับพรรคอื่น ที่พร้อมจะร่วมรัฐบาล จะทำให้เสียงของส.ว.กลายเป็นเพียงส่วนเล็กๆที่เติมเต็มให้ พลังประชารัฐก้าวไปถึงฝั่งฝัน นี่ถือเป็นจังหวะเกมการเมืองที่น่าสนใจ เพราะ พรรคที่เคยถูกปรามาศว่าเป็นพรรคต่ำสิบ อาจแสดงอภินิหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นพรรคที่ต้องจับตามอง
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
