ไม่แปลกที่อดีตส.ส.จากเพื่อไทย จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เพราะต้องยอมรับว่า ว่าจนถึงตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังมีความเสี่ยงถูกยุบพรรค จากกรณีแถลงข่าวครบรอบ 4 ปี คสช. และ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร วิดีโอคอลกับอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจเข้าข่ายถูกครอบงำโดยบุคคลอื่น
แม้ครอบครัว ชินวัตร จะถูกมองว่า ยังคงเป็นแม่ทัพใหญ่ของพรรคเพื่อไทย แต่ในพรรคก็มีกลุ่มทางการเมืองหลายมุ้ง หลายวัง และทุกกลุ่มต่างมีแม่ทัพย่อยเป็นของตัวเอง เมื่อกติกาการเลือกตั้งไม่เอื้อต่อพรรคขนาดใหญ่อย่างเพื่อไทย การกระจายตัวไปแยกย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่นจึงเกิดขึ้น
การเกิดขึ้นของ “พรรคไทยรักษาชาติ” ที่มีตัวย่อ ทษช. คล้ายกับชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นั่งเป็นหัวหน้าพรรค และนักการเมืองที่ย้ายมา ล้วนเป็นระดับแกนนำของพรรคเพื่อไทย ทำให้ไทยรักษาชาติ ถูกมองว่าอาจเป็นพรรคที่จะมาร่วมเก็บคะแนนพรรค เพื่อนำคะแนนไปรวมกับพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง และมาถึงวันนี้ พรรคที่ใช้ชื่อย่อ ทษช. เป็นจุดขาย อาจกลายเป็นพรรคที่ใหญ่กว่า พรรคเพื่อไทย ด้วยซ้ำ
ด้วยกติกาการเลือกตั้งที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้พรรคขนาดใหญ่อย่างเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ จึงมีหน้าที่เก็บคะแนนเขตที่เพื่อไทยเคยแพ้เลือกตั้ง เพื่อนำคะแนนดิบไปแลกเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เห็นได้ชัดจากอดีตส.ส.บิ๊กเนมจากเพื่อไทย ที่ย้ายพรรคไปอยู่ไทยรักษาชาติ เพื่อรอลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง สุชาติ ธาดาธำรงเวช ,นพ. เชิดชัย ตันติศิรินทร์ , จาตุรนต์ ฉายแสง ,สุธรรม แสงประทุม , ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , เกรียง กัลป์ตินันท์ , พิชัย นริพทะพันธุ์ , และ ขัตติยา สวัสดิผล
แม้จะพยายามแก้โจทย์คณิตศาสตร์ทางการเมือง แต่ก็ยังไม่มีใครตอบได้ ว่า ยุทธวิธี แตกแบงค์พัน จะช่วยกวาดคะแนนเพื่อนำไปแลกเก้าอี้ส.ส.ตามความตั้งใจสำเร็จหรือไม่ เพราะ การส่งผู้สมัครลงแข่งขันกันเอง ก็มีโอกาส ที่จะทำให้ทั้ง 2 พรรค ได้คะแนนน้อยทั้งคู่ เพราะตักคะแนนกันเอง
ตามกติกาการเลือกตั้งที่ถูกออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โอกาสที่รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลผสมมีสูงมาก เพราะ การที่พรรคการเมืองใดจะได้เสียงถล่มทลายจากประชาชนเป็นเรื่องยาก
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
