สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ประกาศพิมพ์เขียว 10 ปี ที่จะนำฝรั่งเศสไปสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหลืออีก 4 แห่ง ภายในปี 2030 และปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 14 เครื่อง จากทั้งหมด 58 เครื่องทั่วประเทศ ภายในปี 2035 ขณะเดียวกัน มาครงก็ได้กล่าวถึงกลุ่มผู้ประท้วง “เสื้อกั๊กเหลือง” ที่ต่อต้านการเก็บภาษีน้ำมันที่สูงลิ่ว ว่า เขาได้ยินเสียงของผู้ประท้วง แต่จะไม่เปลี่ยนจุดยืนที่จะผลักดันการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายเพียงเพราะการใช้ความรุนแรงบนท้องถนน ขณะเดียวกันชาวฝรั่งเศสไม่สามารถเรียกร้องบริการภาครัฐที่ดีขึ้นและหวังว่าภาษีจะลดลงได้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศส ยอมรับว่า รัฐบาลของเขาควรจัดทำนโยบายได้ดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำและทำให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งหรือยัดเยียดนโยบาย
นอกจากนี้ นายมาครงยังกล่าวด้วยว่า เขารับทราบแล้วว่าการขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวขึ้น ทำให้เกิดความเดือดร้อนมากกว่าที่คาดไว้ พร้อมกับเสนอว่าจะทบทวนอัตราภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซลทุก ๆ 3 เดือน ตามการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดโลก