บรรยากาศการชุมนุมต่อต้านนโยบายรัฐบาลฝรั่งเศสของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในกรุงปารีสที่ผู้ชุมนุมประมาณ5,000 คนได้ออกมาตัวกันบนถนนฌ็องเอลิเซ่ และพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ แต่ถูกยิงแก๊สน้ำตาสกัดไว้ ขณะที่มีรายงานผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คน
ขณะที่ คริสตอฟ คาสเทเนอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศสระบุว่าได้เปลี่ยนวิธีการดูแสถานการณ์จากเดิมที่เน้นใช้มาตรการยับยั้งเป็นการเพิ่มการตรวจสอบและระงับเหตุรุนแรงในทันที
นอกจากนี้ คาสเทเนอร์ ยังเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองอย่าร่วมมือกับกลุ่มอันธพาล พร้อมย้ำว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางเลือกในการประท้วง และควรหันหน้ามาคุยกับรัฐบาลซึ่งได้ประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีน้ำมันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตัวแทนของสหพันธ์ธุรกิจค้าปลีกของฝรั่งเศสระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่เริ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกของประเทศสูญเสียรายได้ไปแล้ว 1,100 ล้านดอลลาร์หรือ 36,000 ล้านบาท
ทั้งนี้มีรายงานว่าการปะทะกันทำให้มีผู้บาดเจ็บ 126 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัส