ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตรียมเข้าร่วมประชุมกับสหภาพการค้า และบรรดาผู้นำธุรกิจในประเทศ ในช่วงสายวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือแก้วิกฤตความไม่สงบในประเทศ จากการชุมนุมประท้วงของม็อบเสื้อกั๊กเหลือง ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 สัปดาห์ จากนั้นในช่วงค่ำวันนี้ นายมาครงมีกำหนดจะแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยคาดการณ์กันว่า รัฐบาลอาจประกาศมาตรการเพิ่มเติม เพื่อลดความตึงเครียด และปูทางสู่การเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง
ด้านนาย บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ออกมาเตือนว่าการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองกำลังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายปี ซึ่งตามปกติจะคึกคักทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
ขณะนี้ทางการยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากการประท้วงได้ แต่นับตั้งแต่การชุมนุมเริ่มต้นขึ้น บรรดาผู้ค้าปลีกสูญเสียรายได้ไปแล้วเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในกรุงปารีส ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด เนื่องจากผู้ประท้วงจุดไฟเผารถยนต์ บุกปล้นสะดม และทุบทำลายร้านค้าตลอดแนวถนนฌ็องเซลิเซ่
ซึ่งตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ พนักงานทำความสะอาดในกรุงปารีส ต่างระดมกำลังเข้าเก็บกวาดขยะ และซากความเสียหายที่หลงเหลือจากเหตุประท้วงเดือด
ท่ามกลางวิกฤตความวุ่นวายในฝรั่งเศส หนึ่งในผู้นำโลกที่ออกมาเคลื่อนไหว คือ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งฉวยโอกาสผสมโรงว่า เหตุชุมนุมที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าข้อตกลงปารีส ลดโลกร้อน ไม่เป็นผล คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเสียเงินเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม สหรัฐอเมริกาทำถูกแล้วที่ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ได้ออกมาเตือนผู้นำสหรัฐฯว่าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะวิจารณ์เรื่องที่เป็นกิจการภายในของฝรั่งเศส