วันนี้ (17 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่สตีฟ ฮาร์วี่ย์ (Steve Harvey) พิธีกรประจำเวทีประกาศผลว่า ผู้ชนะการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 (Miss Universe) คือ แคทริโอน่า เกรย์ (Catriona Gray) สาวจากประเทศฟิลิปินส์ เสียงดีใจดังสนั่นฮอลล์เมืองทองธานี สถานที่จัดงาน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มงลง!! “Catriona Gray” คว้ามงกุฎ “ มิสยูนิเวิร์ส 2018”)
โดย แคทริโอน่า เกรย์ (Catriona Gray) สามารถฝ่าฟันเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย และการตอบคำถามเดียวกันในหัวข้อ “บทเรียนสำคัญที่ได้เรียนในชีวิตคืออะไร และจะนำมาต่อยอดอย่างไรในการเป็นมิสยูนิเวิร์ส” ซึ่งแต่ละสาวงามต้องตอบคำถามเพื่อแสดงทัศนคติ และไหวพริบให้ออกมาดีที่สุด โดย แคทริโอน่า เกรย์ (Catriona Gray) ตอบว่า ที่มะลิลา เต็มไปด้วยความยากจน ความเศร้า ซึ่งสอนให้เธอมองหาความสวยงามที่อยู่ในสายตาของเด็ก ๆ และจะนำมุมมองในฐานะมิสยูเวิร์ส ไปพูด หรือช่วยให้พวกเขาพ้นจากความเศร้า คำตอบของเธอเข้าตาคณะกรรมการจนสามารถเอาชนะ Tamaryn Green จากประเทศแอฟริกาใต้ และ Sthefany Gutierrez จากประเทศเวเนซูเอล่า ทำเธอคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดประวัติ Catriona Gray ผู้คว้ามงกุฎ “มิสยูเวิร์ส 2018”)
แคทริโอน่า เกรย์ (Catriona Gray) เปิดใจหลังคว้ามงกุฎ ระบุว่า รู้สึกเหมือนทุกอย่างพึ่งเกิดขึ้น ขอบคุณสื่อ และแฟนนางงามทุกคนที่สนับสนุน ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเธอ แต่ขอบคุณแทนเพื่อนนางงามทุก ๆ คนด้วย ส่วนท่าหมุนตัวแบบสโลว์โมชั่นของเธอที่กลายเป็นคลิปไวรัล ให้บรรดาสาวแท้สาวเทียมทั่วโลกหมุนตัวตามกันอยู่ในขณะนี้ เธอบอกว่าไม่มีเคล็ดลับอะไรมากไปกว่าการหมุนตัวช้า ๆ และมองไฟสีแดงที่กล้อง โดยสิ่งแรกที่เธออยากทำหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด คือ การพบกับครอบครัวและทีมงานที่คอยสนับสนุน เธอยังบอกว่าอยากรับประทานมะม่วงดิบกับน้ำจิ้มพริก และชาเย็น เป็นของโปรดของเธอทุกครั้งที่เดินทางมาเมืองไทย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “พญานาค”แรงบันดาลใจ ช่อดอกไม้ “มิสยูนิเวิร์ส 2018” ฝีมือคนไทย) (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “พีพีทีวี” ร่วมแสดงความยินดี มิสยูนิเวิร์ส 2018)
ขณะเดียวกัน แคทริโอน่า เกรย์ (Catriona Gray) ยอมรับว่ามีช่วงเวลาที่กดดัน ตื้นตัน เพราะมีคนคาดหวังนางงามฟิลิปปินส์เยอะ ก็พยายามมองหาแฟน ๆ ครอบครัว เพื่อหากำลังใจในการประกวด จึงอยากขอบคุณทุกคนที่ทำให้มาอยู่ตรงนี้
ด้าน นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ สาวงามตัวแทนประเทศไทย ถึงแม้จะไม่สามารถเข้าถึงรอบ 3 คนสุดท้าย แต่เธอก็ทำอย่างเต็มที่ จนฝ่าฟันมาจนถึงรอบ 10 คนสุดท้ายได้ หลังตอบคำถามในรอบ 20 คน สุดท้าย โดยคำถามคือ อยากให้โลกรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเรา โดย นิ้ง กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอว่า ทุกคนใฝ่ฝันจะเป็นนางงาม ตัวเองเจอคำวิพากษ์วิจารณ์มาก แต่ก็กล้าที่จะเอาชนะความกลัวมาถึงตรงนี้
ขณะที่นางงามสเปน อังเฆลา ปอนเซ่ (Angela Ponce) แม้ไม่เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย แต่กองประกวดเปิดพื้นที่เพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเธอ เพราะนี่คือการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกของเวทีนี้ ที่มีสาวข้ามเพศมาร่วมประกวดด้วย อังเฆลา ปอนเซ่ กล่าวว่า เธอไม่ได้หวังจะได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส หากแต่หวังจะได้อยู่ในโลกที่ทุกคนเท่าเทียมกันมากกว่า ก่อนที่คนในฮอลล์จะลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับเธอจำนวนมาก ด้านฟรานเชสกา หง (Francesca Hung) นางงามจากออสเตรเลีย แม้จะเข้าเพียงรอบ 20 คนสุดท้าย แต่เธอบอกว่ารู้สึกมีความสุขมาก และขอแสดงความยินดีกับ มิสยูนิเวิร์สคนใหม่ด้วย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตามส่อง IG สาวงามตัวเต็ง “มิสยูนิเวิร์ส 2018”)
ทั้งนี้ส่วนประเด็น ที่สังคมให้ความสนใจ คือคำถามในรอบ 5 คนสุดท้าย ที่ถูกมองว่ายากเกินไปสำหรับผู้เข้าประกวดนางงามหรือไม่ นายฐิติพงษ์ ด้วงคง อาจารย์คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ว่า คำถามทั้ง 5 อาจมาจากนางงามตั้งขึ้นมากันเอง เช่นเรื่องสิทธิเสรีภาพของสื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดกันมากในฟิลิปปินส์ยุคประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต เป็นไปได้ที่อาจจะมาจากแคทริโอนา เกรย์ นางงามจากฟิลิปปินส์ หรือคำถามเรื่องผู้อพยพที่นางงามจากแอฟริกาใต้เป็นคนตอบ แน่นอนว่าคนที่มีประสบการณ์ตรงเรื่องนี้ คือ เวเนซุเอลาที่ประชากรจำนวนมากต้องถูกอพยพ ซึ่งการตั้งคำถามในลักษณะนี้ก็เคยใช้มาแล้วเมื่อปี 2005 และนางงามจะโยนคำถามให้กัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดประวัติ “สตีฟ ฮาร์วี่ย์” พิธีกรคู่บุญ “มิสยูนิเวิร์ส”)
นายฐิติพงษ์ กล่าวต่อว่า การนำเสนอคำถาม จะยึดโยงกับความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับเวทีนี้ที่ต้องเป็นไปตามกระแสนี้ ให้เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ เป็นเหมือนการโฆษณาให้ไปกับกระแสโลก