ทุกครั้งที่มีการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะงานเทศกาล พลุมักจะถูกนำมาใช้เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ และเพิ่มสีสันในคืนอันมืดมิด คล้ายประดับดอกไม้อันสวยสดลงบนผ้าใบอันดำมืด พลุจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่อลังการ อีกทั้งสีสันและรูปแบบของพลุ กลายเป็นสิ่งโชว์ฝีมือของทั้งเหล่าช่างทำพลุและผู้ใช้ ทำให้มีความสวยงามมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่กว่าที่พลุและดอกไม้ไฟจะมีความสวยงามได้อย่างในทุกวันนี้ รู้หรือไม่ว่าเกิดจากอะไรและมีพัฒนาการอย่างไร เรามีคำตอบให้ เพราะการทำพลุเป็นทั้งศาสต์และศิลป์ โดยใช้อำนาจแห่งวิทยาศาสตร์มาปรุงแต่งให้เป็นความงามในเชิงศิลปะ ยิ่งความรู้มากขึ้นเท่าไหร่พลุจะยิ่งซับซ้อนขึ้นเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "สวยงาม !! นาทีก้าวสู่ปี 2018
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน จุดพลุเฉลิมฉลองเข้าสู่ปี 2018 อย่างยิ่งใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยุโรปจุดพลุต้อนรับปี 2018 คึกคัก
พลุมาจากไหน ?
ในสมัยโบราณ พลุ และดอกไม้ไฟคือวัตถุที่ติดไฟ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ “ดินปืน” และตามประวัติศาสตร์ ชาติที่ที่ค้นพบและ ริเริ่มการทำดินปืน คือ “จีน”
ตำนานเล่าว่า ดินปืน ถูกค้นพบระหว่างการคิดค้นหายาอายุวัฒนะที่เป็นสุดยอดปราถนาในยุคนั้น โดยระหว่างการทดลองทำยาก็ได้นำดินประสิวหรือโปตัสเซียมไนเตรต และกำมะถัน มาผสมกัน จนเกิดเป็นแผ่นแป้งสีดำ ซึ่งลุกติดไฟได้เมื่อเกิดการเผาไหม้ และมีการตั้งชื่อสารชนิดนี้ว่า “ดินดำ” หรือ “ดินปืน”
จากนั้นตามหลักฐานระบุว่า มีการนำมาใช้ทำพลุเพื่อขับไล่ภูติผี ปีศาจ สิ่งที่ชั่วร้าย โดยยังไม่ได้นำมาใช้เพื่อการเฉลิมฉลอง
สมัยก่อนมักมีคำร่ำลือว่ามีผีที่ชื่อว่า “ซันเซา” ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นก็จะเจ็บป่วย ไม่สบาย ช่วงแรกพวกเขาใช้วิธีการขับไล่ด้วยการนำไม้ไผ่มาตัดเป็นข้อปล้อง แล้วโยนเข้ากองไฟ ซึ่งเมื่อกระบอกไม้ไผ่ไหม้ก็จะระเบิดแตกออกและมีเสียงดัง ต่อมาจึงได้นำ “ดินปืน” ใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ พบว่าเมื่อส่วนผสมดินปืนภายในติดไฟและลุกไหม้ ทำให้เกิดแก๊สร้อนขยายตัวขึ้น ดันกระบอกไม้ไผ่ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆและเกิดเสียงดัง จึงเชื่อว่าหากนำไปจุดในป่าลึกแล้ว จะทำให้ซัน เซาหวาดกลัว หนีไป ซึ่ และต่อมาได้นำมาห่อกระดาษแทนกระบอกไม้ไผ่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “ประทัด”
แต่สิ่งที่ทำให้ดินปืนแพร่กระจายนั้นกลับมาจากสงคราม ความสว่างไสวสวยงามของ สะเก็ดไฟ ก็จุดประกายให้ชาวอิตาลีเริ่มหันมาคิดค้น นำดินปืนมาสร้างสรรค์ให้เป็นดอกไม้ไฟที่สวยงาม โดยมีการดัดแปลงเพิ่มโลหะกับถ่านเข้าไป ซึ่งจะทำให้เกิดประกายแสงสีเงินสีทองสวยงาม นอกจากนี้ยังคิดค้นวิธีควบคุมให้ดอกไม้ไฟระเบิดกระจายกลางท้องฟ้าในรูปแบบต่างๆ
และนี่เองที่เปลี่ยนจากความหวาดกลัวมาสู่งานศิลป์
แล้วสีของพลุมากจากไหน
สีของพลุมาจาก การเผาสารประกอบของธาตุต่างๆ การที่โลหะต่างชนิดกัน ก็ให้สีต่างกัน นั่นเป็นเพราะโลหะแต่ละชนิดคายพลังงานความร้อนออกมาได้ไม่เท่ากัน และมีสีที่ไม่เหมือนกัน
ยิ่งไปกว่านั้นการจัดเรียงเม็ดโลหะ ที่จะให้แสงต่างๆก็เป็นศาสตร์ ที่จะทำให้พลุแตกออกมาเป็นรูปร่างต่างๆตามแต่จินตนาการของผู้สร้าง
นี่เองจึงเป็นที่มาจากสีสันจากแสงอันสวยงาม ซึ่งต่อมาก็ถูฏนำมาใช้ในงานต่างๆ โดยเฉพาะงานเฉลิมฉลอง ซึ่งงานขึ้นปีใหม่ก็เป็นการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่อันจะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นในปีที่กำลังก้าวเข้ามา
และในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้สามารถชมการแสดงโชว์พลุ ที่ทำจากข้าวเหนียวไทย สร้างสรรค์พลุโดยใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยิ่งใหญ่ตระการตาบนสายน้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” บนโค้งน้ำเจ้าพระยาระยะทาง 1,400 เมตร ครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 พีพีทีวีถ่ายทอดสด จากเวทีริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม 2561 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ทาง PPTV HD ช่อง 36 เว็บไซต์ www.pptvhd36.com แอปพลิเคชั่น PPTVHD36 และ Facebook LIVE ทาง แฟนเพจ PPTVHD36
