เมื่อวันที่ (2 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครบรอบ 100 วันกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของด็กชายวัย 14 “กลีบจันทร์” ผู้เป็นแม่เล่าว่า มอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของขวัญที่ซื้อให้ลูกชายไว้ใช้เดินทางไปเรียน เพราะบ้านอยู่ไกลจากสถานศึกษา และไม่มีรถสาธารณะผ่าน โดยไม่คิดว่าเพียง 5 วันต่อมา ลูกชายจะจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์พุ่งชนท้ายรถบรรทุก
ความจำเป็นและชีวิตที่ผูกโยงกับมอเตอร์ไซค์ของครอบครัวนี้ ไม่ต่างจากบ้านของ “ชาญณรงค์ ศิริจรรยา” แม้รู้ว่าการปล่อยให้ลูกชายใช้มอเตอร์ไซค์ จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีเหตุผลที่เลี่ยงไม่ได้ จนวันหนึ่งความกลัวก็เกิดขึ้นจริง เมื่อเขาเกือบเสียลูกชายวัย 16 ไปจากอุบัติเหตุ
ข้อมูลจากรมการขนส่งทางบกระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์มากถึง 21 ล้านคัน ครองสัดส่วน 2 ใน 3 ของยานพาหนะทั้งประเทศ ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นชัดว่ามอเตอร์ไซค์มีสถานะเป็นรถประจำบ้านของอีกหลายครอบครัว
มูลนิธิป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและอาชญากรรม พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้อุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ในเมืองไทยพุ่งสูงขึ้น เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่อาจแก้ไขได้ในระดับปัจเจกบุคคล เมื่อความเป็นจริงประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่สามารถเข้าถึงบริการรถสาธารณะ และไม่มีฐานะพอที่จะซื้อรถยนต์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
นอกจากการบริการสาธารณะที่เข้าไม่ถึง การตลาดของรถมอเตอร์ไซค์ยังเป็นจัยจัยสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงง่าย จากการสำรวจของทีมข่าวพีพีทีวีพบว่า ปัจจุบันโปรโมชั่นของร้านขายมอเตอร์ไซค์ มีเพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถเป็นเจ้าของรถได้ โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์หรือคนค้ำประกัน
ข้อมูลจากมูลนิธิป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและอาชญากรรม ระบุว่าปัจจัยเหล่านี้ เป็นจุดเริ่มเริ่มต้นของนักขับขี่หน้าใหม่ ที่ยังขาดทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย หากหน่วยงานรัฐต้องการตัดวงจรอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ ควรเริ่มจากการปรับปรุงโครงสร้างรถสาธารณะ และหามาตรการห้ามเด็กขับขี่มอเตอร์ไซค์ก่อนวัยที่กฏหมายกำหนด