วันนี้ (7 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นอีก 1 จุด ในกรุงเทพมหานคร ที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ของกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศแล้วพบว่ามีฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 หรือที่เรียกกันว่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้พบเห็นประชาชนที่เดินทางมาขึ้นรถโดยสารจำนวนหนึ่งใส่หน้ากากอนามัย จากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่พบว่า ในตอนเช้าที่ออกไปทำงานมักจะใส่หน้ากากอนามัยเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องการหายใจสูดเอาควันพิษเข้าไปในร่างกาย
ทั้งนี้แต่สำหรับบางคนก็เพิ่งมาหันมาใส่หน้ากากอนามัย เพราะกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และส่วนใหญ่ยังคงไม่รู้ว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ จึงขอให้กรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากกว่านี้
ขณะที่เว็บไซต์ของหน่วยงานกรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาด 2.5 PM ในช่วงเช้าวันนี้พบว่า มีค่าเกินมาตรฐานถึง 20 พื้นที่ โดยเฉพาะที่บริเวณริมถนน เช่น เขตดินแดง เขตดุสิต เขตคลองเตย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจุดที่การจราจรติดขัดและมีรถยนต์สัญจรไปมาเยอะเป็นพิเศษ และคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ เริ่มจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ของประชาชน
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า สภาพอากาศในช่วงนี้เป็นสภาพอากาศที่ปิด มีความกดอากาศสูงจากมวลอากาศเย็น ทำให้มีเมฆลอยต่ำ อากาศนิ่งไม่เคลื่อนที่และไม่มีลมพัด ทำให้ฝุ่นละองง PM 2.5 ลอยขึ้นฟ้าได้ยาก จึงเป็นสาเหตุให้ฝุ่นละอองมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ ล่าสุดทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ประสานงานกับ กทม. เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเข้มงวดขึ้น เช่น การกวาดล้างถนน การฉีดพ่นละอองน้ำ และจะประสานหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดต่อไป