มาเนาส์ เมืองที่เราไม่ควรมา ??!? 


โดย เรื่องจริงจากการเดินทาง เก่ง- ฝ้าย

เผยแพร่




"ยุคนึงที่นี่ คนฆ่ากันเป็นผักปลา" นี่คือคำบอกของลุงคนนำทางสุดเก๋าของเราในวันนี้  

วันที่เราออกจากป่ามาแล้ว ...วันที่เราเลือกใช้เวลาที่เหลืออีกหนึ่งวันในการทำความรู้จักเมืองมาเนาส์ เมืองท่าสำคัญอีกเมืองหนึ่งในรัฐแอมาซอนนาส ประเทศบราซิล ได้ยินอย่างนี้ ภาพที่คิดว่าจะได้ทำความเข้าใจเมืองนี้อย่างเพลิดเพลินกับศิลปะ และสถาปัตยกรรม จากยุคอาณานิคมของโปรตุเกส  และยุคที่อังกฤษ ฝรั่งเศสเข้ามามีบทบาทสำคัญในการค้าขายก็เปลี่ยนไป

คุณลุงสุดเก๋าเล่าอย่างออกรสออกชาติว่าตั้งแต่สมัยก่อน ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ มีเพียงชนเผ่าที่หาปลา และล่าสัตว์มาขาย แต่พอตกอยู่ใต้อาณานิคมของโปรตุเกส (รวมถึงตอนเป็นอิสระจากโปรตุเกส แล้วอังกฤษกับฝรั่งเศสก็เข้ามามีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ) ทรัพยากรต่างๆ ก็ถูกนำไปใช้ ไปสร้างประโยชน์มากขึ้น รูปแบบเศรษฐกิจก็เปลี่ยนแปลงไป วิถีของคนก็เปลี่ยน จากการพึ่งพาธรรมชาติ ไม่ต้องใช้เงินทอง ก็ต้องเข้าสู่ระบบแรงงาน เศรษฐกิจที่นี่เฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ ชุมชนเล็กๆ ขยายเป็นเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่อง

มีสมัยหนึ่งที่ชาวบ้านถูกหลอกเป็นแรงงานทาส เจ้าของกิจการจากต่างถิ่น มาลงทุน ก็หลอกให้ชาวบ้านเป็นแรงงาน โดยไม่จ่ายค่าแรง ด้วยการเอาข้าวเอาน้ำมาให้กิน เอาข้าวของมาล่อ แต่ไม่ให้เงิน พอตายใจ ก็ไปทำงานให้เขา โดยคิดว่าสิ่งที่เขาให้คือน้ำจิตน้ำใจให้ผูกมิตร สรุปสุดท้ายทำงานโดยไม่ได้เงิน พอใครหืออือ ทวงเงิน ก็ฆ่าทิ้งแบบไม่ใยดี เพราะแถบนี้ยังบ้านป่าเมืองเถื่อน

เราถามถึงปัจจุบัน (แอบหวังว่าคงไม่เหมือนในหนัง เพราะก่อนหน้า เอดูอาโด้เพื่อนป่าชาวบราซิล นางบอกมาเนาส์นี่ปลอดภัย ไม่เหมือนริโอเดอจาเนโร เมืองหลวง ที่อันตรายขึ้นชื่อโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว ) คุณลุงคนเดิม ตอบเราหน้าซื่อ “มันก็คือเก่า นั่นแหละ อิหล่า” ความโหด ความเถื่อน อาจไม่มากเท่า แต่ไม่ปฏิเสธว่ายังมีอยู่เพราะตัวลุงเองทุกวันนี้ ยังมีถนนหลายสายที่ไม่เคยขับรถผ่าน และตลอดชีวิตที่เติบโตมาในถิ่นนี้ไม่เคยไปเยือนโดยไม่มีใครไปด้วย และไม่ต้องถามถึงการไปยังที่เหล่านั้นในเวลากลางคืนเลยมันอันตรายสุดๆ

ลุงเล่าว่าถ้าใครที่เป็นคนต่างถิ่นเข้าไปในตรอก ในซอยสุดอันตรายที่ว่านั้น ก็จะหายไป แบบไม่กลับมา พอไปตามหาทุกคนก็จะเงียบกริบ ลุงแกเรียกว่า Law of silence เพราะถ้าใครพูดก็ตายลูกเดียว (ในขณะที่เล่าก็ขับรถพาเราผ่านไป แล้วเปิดกระจกให้เราดู ลุงไม่คิดว่าเราจะกลัวบ้างหรือไงคะ )

ส่วนสาเหตุของความโหดในยุคนี้ที่มาเนาส์ ลุงว่าไม่ใช่เรื่องทรัพยากร หรือแรงงานเหมือนยุคก่อนแล้ว แต่เป็นเรื่อง ของยาเสพติดที่สัมพันธ์กับอำนาจการเมืองแบบแยกไม่ออก (ที่นี่อยู่ใกล้โคลัมเบีย แหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญของโลกโดยเฉพาะโคเคน มีเปรู เวเนซูเอล่า และบราซิลที่อยู่ติดกันเป็นแหล่งส่งต่อ เขตอันตรายที่ลุงว่าไม่กล้าผ่านในมาเนาส์ก็เป็นแหล่งซ่องสุมของมาเฟีย เป็นดีลเลอร์ค้ายารายใหญ่ในประเทศ ลุงว่างั้นนะ)

จะว่าไปเมื่อเช้าก่อนเรือที่เรานั่งมาจากมาราอา ก่อนจะจอดเทียบท่าที่มาเนาส์ ก็ถูกชุดจู่โจมเข้าตรวจค้นยาเสพติด เพราะการข่าวบอกว่าเรือมาจากชายแดนขนยาเสพติดมาด้วย (แหมอย่างกับในหนัง) คุยกับลุงไปมา เราก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าสรุปแล้วบ้านนี้เมืองนี้เราควรมาไหม ทำไมถึงโหดกันขนาดนี้ แล้วก็คิดได้ว่า ทุกที่บนโลก ก็ล้วนอันตรายทั้งนั้น ถ้าเราไม่รู้จักระวังตัวและอยู่ให้เป็น ถึงจะเป็นคนพื้นที่ หรือคนต่างถิ่น ก็เสี่ยงทั้งนั้น เหมือนกับตอนนี้ที่นั่งอยู่บนรถเฉยๆ ก็เสี่ยงตายเพราะลุงขับรถได้อันตรายมาก เหมือนๆ กับคนทั้งเมืองนี้เลย ถ้าเลือกได้ ก็เดินบนถนนน่าจะดีกว่า

ติดตามการเดินทางครั้งนี้ใน ปักหมุดสุดขอบโลก ตอน บันทึกคน-ป่า แอมะซอน ศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562 เวลา 22.30 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36  

 

ชมการเดินทางสู่ป่าแอมะซอนย้อนหลัง 

บันทึกนักล่า จากป่าแอมะซอน ตอนที่ 1 
บันทึกนักล่า จากป่าแอมะซอน ตอนที่ 2 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ