วันนี้ 17 ม.ค. 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 24 มี.ค. 2562 ยังอยู่ในกรอบเวลา 150 วัน ที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง และถือว่ามีความเหมาะสม เพราะกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ทั้งการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. โดยการนำรายชื่อ ส.ว. นำขึ้นทูลเกล้าฯ รวมถึงรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จะเกิดขึ้นเมื่อพ้นช่วงเวลาของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไปแล้ว
พร้อมยืนยันว่ากรอบเวลา 60 วัน ของการรับรองผลการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวข้องกับกรอบเวลาจัดการเลือกตั้ง 150 วัน แต่หาก กกต. ยังมีความกังวลและยืนยันว่าจะจัดการทั้งสองเรื่องให้เสร็จภายใน 150 วัน ก็เป็นเรื่องของ กกต. ที่จะพิจารณา
ส่วนประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง นายวิษณุ คาดว่า จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในสัปดาห์หน้า
วันเดียวกัน ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดจากการเลือกตั้ง ส.ส.กว่า 5 หมื่นล้านบาท และการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 8 หมื่นล้านบาทจากธุรกิจการพิมพ์และโฆษณาประมาณ 12,600 ล้านบาท ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก 10,200 ล้านบาท ภัตตาคารและร้านอาหาร 4,400 ล้านบาท และบริการทางธุรกิจ เช่น การจัดตั้งเวทีหาเสียง รถหาเสียง ประมาณ 2,967 ล้านบาท ช่วยดันจีดีพีไทยเติบโตไม่ต่ำกว่า 0.3%
ด้าน นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาตลาดทุนไทย มองว่า การเลือกตั้งมีความสำคัญต่อภาคธุรกิจ รวมถึงการลงทุนของเอกชนในระยะยาว หากไม่มีการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ระบบเศรษฐกิจเกิดปัญหาได้