หลังจากมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 มีมติให้ปรับปรุงอัตราค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ โดยเป็นการปรับทุกประเภทของรถเมล์ และจะมีผลในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.นี้ ปรากฏว่าในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ล่าสุด มีมติให้ชะลอการขึ้นค่าโดยสารไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชนผู้ใช้รถ มีเพียง "รถเมล์ NGV สีฟ้า" เท่านั้นที่ยังคงปรับขึ้นค่าโดยสารเหมือนเดิม ตามที่กำหนด แต่มีจุดที่น่าสังเกต จาก เฟซบุ๊กรถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai.com ในส่วนของช่องความต่างค่าโดยสารที่ทำให้ผู้ใช้บางรายต้องควักกระเป๋าเพิ่มถึง 7 บาท
เพราะอัตราค่าโดยสารรถเมล์ใหม่ ที่เก็บ 15-20-25 บาท ควรแบ่งระยะให้เหมาะสมมากกว่านี้ โดยเฉพาะช่วงราคา 20 บาท นับว่ากว้างไป เพราะคนที่นั่งระยะทาง 4-8 กม. จะได้รับความเดือดร้อนที่สุด เพราะต้องจ่ายเพิ่มถึง 7 บาท
นั่นหมายถึง คนที่เคยจ่าย 13 บาท หลังวันที่ 21 ม.ค.ไปแล้วต้องจ่ายเพิ่มเป็น 20 บาท เพิ่มขึ้นถึง 7 บาท เนื่องจากราคาที่ยังไม่ได้มีการปรับยึดตามอัตราค่าโดยสารรถยูโรทูสีส้มซึ่งมีความถี่ระยะทางกับราคามีความถี่มากกว่าคือที่ 7 ระยะ ดังนี้
- ระยะทาง 4 กม. แรก เก็บ 11 บาท
- ระยะทาง 4-8 กม. เก็บ 13 บาท
- ระยะทาง 8-12 กม. เก็บ 15 บาท
- ระยะทาง 12-16 กม. เก็บ 17 บาท
- ระยะทาง 16-20 กม. เก็บ 19 บาท
- ระยะทาง 20-24 กม. เก็บ 21 บาท
- ระยะทาง 24 กม. ขึ้นไป เก็บ 23 บาท
แต่ อัตราค่าโดยสารใหม่ของรถเมล์ปรับอากาศสีฟ้ามีเพียง 3 ราคา 3 ระยะ คือ 15-20-25 บาท ตามระยะทาง คือ
- ระยะทาง 4 กม. แรก เก็บ 15 บาท
- ระยะทาง 4-16 กม. เก็บ 20 บาท
- ระยะทาง 16 กม. ขึ้นไป เก็บ 25 บาท
เมื่อเอามาเทียบราคากันแล้ว หากเรานั่งรถเมล์ใหม่สีฟ้า ในราคาค่าโดยสารหลังปรับขึ้น ระยะทาง 4 กม. แรก เดิมเก็บ 11 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 15 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท
ระยะทาง 4-8 กม. เดิมเก็บ 13 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 20 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท
ระยะทาง 8-12 กม. เดิมเก็บ 15 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 20 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท
ระยะทาง 12-16 กม. เดิมเก็บ 17 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 20 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท
ระยะทาง 16-20 กม. เดิมเก็บ 19 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 25 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท
ระยะทาง 20-24 กม. เดิมเก็บ 21 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 25 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท
ระยะทาง 24 กม. ขึ้นไป เดิมเก็บ 23 บาท จ่ายเพิ่มเป็น 25 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท
เช่น นั่งรถเมล์ใหม่สีฟ้าสาย 511 จากปากน้ำไปสำโรง เดิมจ่ายค่ารถ 13 บาท พอเจอราคาใหม่ โดนไป 20 บาท จ่ายเพิ่มขึ้น 7 บาท เป็นผม ผมยอมขึ้นรถร้อนหรือสองแถว หรือรถยูโรทูที่เก็บ 15 บาทดีกว่าไหม?
ส่วนใครนั่งรถเมล์ใหม่สาย 511 จากปากน้ำไปสายใต้ใหม่ เดิมจ่าย 23 บาทก็จ่ายเพิ่มเป็น 25 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท ถ้ารถทางด่วนก็บวกค่าธรรมเนียมขึ้นทางด่วนอีก 2 บาท เป็น 27 บาท
สำหรับรถเมล์ NGV รุ่นใหม่สีฟ้า กำลังจะเข้ามาแทนที่รถเมล์ปรับอากาศตามโครงการรถเมล์ NGV 3,000 คัน โดยปัจจุบันตามที่รายงานในที่ประชุม คนร. นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ บอกว่า ปัจจุบันรับมอบรถเมล์มาแล้ว 300 คัน และกำลังจะมาอีก 189 คัน ให้ภายในเดือนมีนาคม 2562 และคาดว่าจะครบทั้ง 3,000 คัน ภายในปี 2565
แบ่งเป็น ล็อตที่ 1
เขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 100 คัน รวม 9 เส้นทาง
เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 32 คัน รวม 4 เส้นทาง
เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 70 คัน
ล็อตที่ 2
เขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 39 คัน รวม 4 เส้นทาง
เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 78 คัน รวม 4 เส้นทาง
เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 40 คัน รวม 3 เส้นทาง
เขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 30 คัน รวม 2 เส้นทาง