“แอริน” เผยโรคซึมเศร้าคร่าชีวิตคู่หมั้น “ซูซี่”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นักแสดงสาว “แอริน ยุกตะทัต” เพื่อนสนิท “ซูซี่ - สุษิรา แน่นหนา” เผย “คริสโตเฟอร์” ป่วยโรคซึมเศร้าเหตุจากไปอย่างกระทันหัน

หลังจากที่นักแสดงสาว “ซูซี่ -  สุษิรา แน่นหนา” สูญเสีย “คริสโตเฟอร์”  คู่หมั้นอย่างกระทันหัน เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าว  "ซูซี่ สุษิรา" โพสต์เศร้า สูญเสียคู่หมั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 28 ม.ค. 62 ) “แอริน ยุกตะทัต” เพื่อนสนิท “ซูซี่” ได้ออกมาเผยสาเหตุการเสียชีวิตของ “คริสโตเฟอร์”  ว่า

“คู่หมั้นเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ( น้ำตาคลอ ) คริสได้เลือกที่จะจบชีวิตของเขาด้วยตัวเอง ซึ่งน่าจะทราบกันดีว่าคริสทำงานเป็น EOD ซึ่งจะเป็นหน่วยกู้ระเบิด ทำงานนี้มานาน 9 ปี มีความเครียดจากการฝึกมาตั้งนานแล้ว เขามีประวัติรักษาโรคซึมเศร้ามาซักพักแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พยายามจบชีวิตของเขา ซู่ซี่พยายามดึงเขากลับมาโลกแห่งความเป็นจริง พยายามโชว์ให้เขาเห็นความรักที่ซูซี่มีให้เขา แต่คนที่เป็นโรคแบบนี้ก็คาดเดายาก ตอนนี้ซู่ซี่อยู่ที่เชียงใหม่กับครอบครัว ยังไม่พร้อมที่จะออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะสุขภาพจิตค่อนข้างแย่ เลยให้แอมาพูดแทน”

 

โรคซึมเศร้า! มหันตภัยร้าย คร่าชีวิต
“โรคซึมเศร้า” เรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด
จิตแพทย์ชี้ ทุกอาชีพเสี่ยง “โรคซึมเศร้า” เผยสถิติปี 60 ตำรวจป่วย 83 ราย

“คริส” ต่อสู้กับโรคซึมเศร้านี้มานานกี่ปีแล้ว

“หลายปีแล้วค่ะ เขาก็มีแพลน เขาหมั้นกันแล้ว มีแพลนที่จะมีครอบครัวกันเร็วๆนี้ แต่โรคนี้บางครั้งหลายๆอย่างเราไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรสะกิดเขาบ้าง มันเลยทำให้เขาคิดแบบนี้ เขามีการพบแพทย์ มีการรักษา เขาได้ย้ายจากอเมริกามาอยู่ที่เชียงใหม่กับซูซี่เพื่อสร้างครอบครัวด้วยกัน ทางครอบครัวซูซี่ก็ช่วยทุกอย่าง เขาเสียชีวิตที่เชียงใหม่ค่ะ เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล”

“แอริน” เพิ่งเจอเขาตอนปีใหม่

“คือเราคุยกันตลอด เราสนิทกับซูซี่มากและสนิทกับเขามาก เวลามีอะไรบางครั้งเขาอยากคุยกับเราๆก็ให้คำปรึกษาตลอด เราแคร์เขา รักเขาเหมือนเพื่อนสนิทคนนึงค่ะ”

มีคนไปเจอเขาตอนเกิดเหตุการณ์

“แอขอเก็บข้อมูลนี้ไว้นะคะ เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวทั้งสองฝั่ง แออยากให้โฟกัสกำลังใจที่ให้กับซูซี่ ให้พื้นที่เขาทำใจ เพราะเรื่องแบบนี้ก็ไม่อยากมีใครให้เกิดขึ้น เพราะค่อนข้างหนักอยู่เหมือนกัน อยากให้ๆกำลังใจเขาเยอะๆค่ะ แอก็บินไปหาซูซี่ค่ะ พยายามจะที่จะให้กำลังใจเขา เพราะว่าเราผ่านตรงนี้ไปได้ อยู่เป็นกำลังใจในทุกๆก้าว บางครั้งแอไม่รู้ว่าเขาจะคิดอะไรบ้าง แต่ซูซี่ก็มีคุณแม่และพี่สาวคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้าที่ซูซี่ไม่ได้รับงาน”

เพราะเป็นเส้นเสียงอักเสบ ก็ใช้เวลาพักเต็มที่อยู่กับคริสด้วย ตอนนี้ซูซี่ก็ไปเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ เขาจะคุยกับแอทุกวันว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ทำอะไรบ้าง เป็นห่วง  แอเช็คเขาตลอด เขาก็อยากขอบคุณแอเพราะว่าเขาก็ออกมาพูดไม่ไหวจริงๆ เขากลัวว่าแอจะลำบากใจที่พูดแทนเขา แอบอกว่าไม่เป็นไร ทำให้ได้

ตอนนี้ต้องมีคอยอยู่กับ “ซูซี่” ตลอดเลยใช่ไหม

“เขาอยู่กับพี่สาวและคุณแม่ที่เชียงใหม่ พี่สาวเขาก็บินมาจากออสเตรเลียมาอยู่ด้วย ไม่ควรให้เขาอยู่คนเดียว เพราะด้วยที่บ้านยังมีของๆคริสอยู่ ตอนนี้กำหนดการของคริส น้องชายและเพื่อนของเขาได้บินมาและจะนำคริสไปทำพิธีที่อเมริกากับครอบครัวเขาและเป็นพิธีทหารที่อเมริกา”

กำหนดการแต่งงานของเขาจริงๆคือเมื่อไหร่

“ไม่ปีนี้ก็ปีหน้าค่ะ เขาเป็นคู่ที่ไม่ได้รีบ เขารักกันมาก คบกันมาตั้งนาน”

เรื่องนี้เป็นข้อคิด “แอริณ”อยากบอกอะไรไหม

“แอจะบอกไว้นะคะว่า ทุกอย่างปัญหาในชีวิตมีทางออกเสมอ เราอาจจะคิดว่าเราอยู่คนเดียว เราไม่มีใคร เราทางออกไม่ได้ แล้วใครไม่รักเรา แต่แออยากจะบอกว่าคนที่เป็นโรคนี้ รวมทั้งตัวแอด้วยนะคะ อยากจะบอกแอก็กินยา มันมีทางออกเสมอ มีคนรักเราเยอะมาก การที่เราไป เราทิ้งคนที่เขารักเรา เราทำร้ายเขาอีกเยอะเลย อยากให้ทุกคนบอกรักกันไว้เยอะๆบ่อยๆ คุยกันเยอะๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันเป็นโรคที่น่ากลัวและโหดร้ายมากสำหรับบางคน แต่แออยากให้ทุกคนมองอีกมุมนึงว่าโรคนี้มีสิ่งสวยงามให้เราอยู่เพื่ออยู่ต่อ”

ก่อนที่ “คริส” จะไปมีลางอะไรไหม

“เขาเคยมีประวัติที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว แอเคยคุยกับเขาว่าอย่าทำนะ ยูมีไอนะ ถ้ายูคิดมากยูโทรหาไอนะ แต่เขาก็..คือเหมือนมีขึ้นๆลงๆมาเรือยๆ เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเมื่อไหร่ จะไปเมื่อไหร่ เหมือนที่เขาว่ากันว่าเราเซฟคนนึงวันนี้ แต่เราเซฟเขาพรุ่งนี้ไม่ได้ เราเซฟเขาทุกวันไม่ได้ หน้าที่ของที่เราเป็นเพื่อน ใครก็ตาม มีหน้าที่ๆทำให้ดีที่สุดค่ะ”  

หลังจากนี้ “ซูซี่” จะทำงานต่อไหม

“ตอนนี้แอบอกเขาเลยว่า ให้ใช้เวลาให้เต็มที่ๆจะทำใจ ไม่ต้องคิดว่าต้องออกมาพูด หรือต้องมีเวลากำหนดว่าเราต้องโอเคตอนนี้นะ เมื่อไหร่พร้อมก็พร้อม มันไม่มีการทำผิดหรือถูก เพราะว่าแต่ละคนต้องทำใจไม่เหมือนกัน แอบอกเขาว่ายูรู้สึกให้เต็มที่แล้วยูก็รับความรู้สึกนั้นเข้ามา แล้วยูก็ปล่อยมันออกไป แต่ยูก็ทำใจ และชีวติต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่แอก็ให้คำตอบพี่ๆไม่ได้ว่าเขาจะพร้อมเมื่อไหร่ และแอก็ไม่ได้อยากให้เขาเร่งรีบด้วยค่ะ”

อย่างโรคซึมเศร้าต้องพาผู้ป่วยไปรักษายังไง

“อันนี้เป็นอะไรที่ยากมาก จริงๆคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ข้อแรกเลยต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองไม่สบาย แอต้องบอกเลยว่าเราไม่ได้เป็นโรคจิต เราไม่ได้เป็นบ้า แล้วคนเป็นเยอะมาก ถ้ายอมรับแล้วอยากรักษาให้หาย ทุกคนยินดีช่วย หลายวิธีการให้ดีขึ้น แออยากให้ทุกคนยอมรับในโรคนี้มากขึ้นว่า อย่าคิดว่าเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือว่าเป็นโรคที่ฮิต เป็นแฟชั่น ไม่ใช่ค่ะ เราต้องรักกันไว้ เราต้องช่วยกันไว้ ไม่ต้องอาย ไปหาหมอ หรือบอกคนสนิท คนรักเรา พ่อแม่เราก็ได้แค่พูดขึ้นมา แอจะทำทุกอย่างให้รณรงค์เรื่องนี้ เพราะแอเสียเพื่อนไปหลายคนกับการฆ่าตัวตายเยอะมากแล้ว”

วิธีช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 
กรมสุขภาพจิต แนะสิ่งที่คนใกล้ตัว “ไม่ควรทำ” กับผู้ป่วย “โรคซึมเศร้า” 
แพทย์เผยลักษณะเสี่ยง"โรคซึมเศร้า"ใครเข้าข่ายควรพบจิตแพทย์ไม่ต้องอาย 

ขอบคุณภาพจาก IG susiroo , aerinyuktadatta

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ