“นักวิชาการ” แนะ “บิ๊กตู่” วางตัวเป็นกลาง  


โดย PPTV Online

เผยแพร่




งานเสวนา “เลือกตั้ง 62 จุดเปลี่ยนประเทศไทย” แนะ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ควรรับ บัญชีนายกฯ ชี้ ไม่ง่าย กลับมาเป็นนายกฯ อีก

ในงานเสวนา “เลือกตั้ง 62 จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ มองว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง พรรคที่เชื่อว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งในทางปฎิบัติถือว่ามีโอกาสน้อยมาก และหากตอบรับ ก็กลายจะเป็นจุดอ่อนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะจะถูกมองว่า มีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้ง ขณะที่จุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถแยกออกจากนายทักษิณ ชินวัตร ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีประชาชนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจการบริหารงานและเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553

นอกจากนี้ผศ.ปริญญา มองว่า พรรคประชาธิปัตย์ ควรเปิดเผยท่าทีให้ชัดเจนว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ เพราะแม้ว่าการเมืองจะแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย แต่หลังการเลือกตั้งจะมีเพียงรัฐบาลและฝ่ายค้านเท่านั้น ซึ่งการไม่เปิดเผยท่าที จะส่งผลเสียกับพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่ศ.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มองว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะบริหารประเทศได้ เพราะการเมืองหลังการเลือกตั้งแตกต่างจากการเมืองที่มาจากรัฐประหาร ที่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะคุมรัฐสภาไม่ได้

ส่วนรศ.โคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ย้ำข้อเสนอที่เคยพูดก่อนหน้านี้ว่า ทุกพรรคการเมืองควรเคารพเสียงประชาชน โดยให้พรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากกว่า 250 เสียง เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีก่อน แม้ว่าตามรัฐธรรมนูญจะกำหนดเพียงให้พรรคการเมืองที่มี ส.ส. 25 คน เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ พร้อมมองว่า กติกาทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อให้ คสช.อยู่ในอำนาจรวม 13 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน รวม 5 ปี  หลังการเลือกตั้ง 4 ปี  และอยู่ต่ออีก 4 ปี หลังการเลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจาก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. มีอายุ 5 ปี จะมีสิทธิ์ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ