เมื่อวันที่ (3 ก.พ. 62) กรมควบคุมมลพิษ ได้เปิดเผยปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าลดลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังจากที่กรุงเทพมหานครร่วมกับโรงเรียนการบินกรุงเทพมหานคร นำเครื่องบินเล็กโปรยละอองน้ำ บริเวณถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน โดยผลสรุปการปฎิบัติการ ปริมาณค่าฝุ่นในพื้นที่ที่ฉีดพ่นละอองน้ำมีปริมาณลดลง ขณะที่ฝุ่น PM10 มีปริมาณเท่าเดิม เพราะมีอนุภาคที่ใหญ่กว่าละอองน้ำ และเมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียง พบว่าปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ลดลงเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ของพื้นที่ที่ไม่ได้ทำการฉีดพ่น จึงอนุมานได้ว่าปฎิบัติการนี้มีส่วนช่วยให้ค่าฝุ่นลดลง โดยต่อจากนี้จะนำผลมาปรับปรุง และขอทดลองปฎิบัติการขึ้นบินในวันนี้อีกครั้ง เพื่อให้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ปฎิบัติการนี้คุ้มค่าที่จะทำต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทุกพื้นที่ ทั้งนี้ จากการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้น จะส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยว่า ปภ.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดที่มีปัญหาฝุ่นละออง โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง
พร้อมประสานจังหวัดดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูงให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เจ็บป่วยได้ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย